HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นแกว่งตัวแคบ ปิดภาคเช้าที่ 1,666.10 จุด ลดลง 10.77 จุด เจอแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ หลังดัชนี Nasdaq ฟิวเจอร์สร่วงแรง จาก Bond yield พุ่งเกิน 1.8% หวั่นเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็ว แนวโน้มภาคบ่ายมีโอกาสเจอแรงขายต่อ พร้อมให้กรอบแกว่ง 1,660-1,672 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 18 ม.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,666.10 จุด ลดลง 10.77 จุด หรือ -0.64% มูลค่าการซื้อขาย 65,212.88 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,682.93 จุด และต่ำสุด 1,664.67 จุด
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้าปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ติดลบ จากความกังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่ปรับตัวขึ้นเกิน 1.8% โดยวานนี้มาปิดที่ 1.84% ทำให้กังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเกิดขึ้นเร็ว ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยถูกขายออกมา หลัก ๆ ก็เป็นหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าเป็นแรงขายจากกองทุนในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติ
ทั้งนี้ เช้านี้ดัชนี Nasdaq ในตลาดฟิวเจอร์สได้ปรับตัวลงมากว่า 100 จุด โดยมีแรงขายหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อออกมามาก
นอกจากนี้ ดัชนีก็ไม่ผ่าน 1,680 จุด ทำให้เกิดแรงขายระยะสั้นออกมา ซึ่งดัชนีจะต้องยืนให้ได้ที่เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1,667 จุด อย่างไรก็ดี สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในประเทศเริ่มลดลง ทำให้นักลงทุนผ่อนคลายไปได้บ้าง พร้อมให้จับตาการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวลง หลังดัชนี Nasdaq ในตลาดฟิวเจอร์ส ได้ปรับตัวลง จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐ อายุ 10 ปี และ 2 ปี ได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เป็นการสะท้อนความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.นี้ สร้างความกังวลต่อหุ้น High Value
สำหรับแนวโน้มภาคบ่าย ตลาดมีโอกาสเจอแรงขายต่อ แต่ต้องยืนให้ได้ที่ 1,667 จุด โดยให้กรอบแกว่ง 1,660-1,672 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK อยู่ที่ 145.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.35% มูลค่าซื้อขาย 4,448.60 ล้านบาท
TKC อยู่ที่ 30.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ +2.50% มูลค่าซื้อขาย 3,760.03 ล้านบาท
GULF อยู่ที่ 50.75 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ -2.40% มูลค่าซื้อขาย 3,439.23 ล้านบาท
GUNKUL อยู่ที่ 6.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ +9.76% มูลค่าซื้อขาย 3,286.61 ล้านบาท
BBL อยู่ที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +1.16% มูลค่าซื้อขาย 2,728.98 ล้านบาท