ดาวโจนส์ลบ 201 จุด กลุ่มแบงก์ถ่วงตลาด ผิดหวังกำไร

HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 201 จุด กลุ่มแบงก์ถ่วงตลาด นักลงทุนผิดหวังผลประกอบการ  ตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจต่ำกว่าคาด ส่วนหุ้นยุโรปลดลง จากกลุ่มค้าปลีกกังวล เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือนมี.ค.นี้  ด้านราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 14 ม.ค. 2565 ปิดที่ 35,911.81 จุด ลดลง 201.81 จุด หรือ 0.56% จากการลดลงของกลุ่มธนาคารหลังรายงานผลประกอบการที่นักลงทุนผิดหวัง แม้จะดีกว่าคาด รวมทั้งเป็นผลจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,662.85 จุด เพิ่มขึ้น 3.82 จุด หรือ +0.08%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,893.75 จุด เพิ่มขึ้น 86.94 จุด หรือ +0.59%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 0.88%, ดัชนี S&P500 ปรับตัวลง 0.3% และดัชนี Nasdaq ติดลบ 0.28%

หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ธนาคารใหญ่อันดับ 1 ในสหรัฐฯเมื่อวัดจากสินทรัพย์ รายงานกำไรและรายได้ดีกว่าคาด แต่ราคาหุ้นลดลงกว่า 6% ซีเอฟโอของธนาคารเตือนว่า ธนาคารอาจจะพลาดเป้ากำไรในอีก 2 ข้างหน้า

หุ้นซิตี้กรุ๊ปลดลงเกือบ 1.3% หลังรายงานรายได้สูงกว่าคาด แต่กำไรลดลง 26%

หุ้นมอร์แกนสแตนเลย์ หุ้นโกลด์แมนแซคส์ซึ่งกำหนดรายงานผลการดำเนินงานในสัปดาห์หน้า ต่างก็ลดลง

หุ้นเวลลส์ ฟาร์โกเพิ่มขึ้นราว 3.7% จากรายได้ที่ดีกว่าคาด

เจอราร์ด คาสซิดี้ นักวิเคราะห์หุ้นแบงก์ใหญ่จาก RBC Capital Markets กล่าวว่า รายจ่ายของธนาคารเพิ่มขึ้นมาก เห็นได้ชัดในผลประกอบการของ เวลลส์ ฟาร์โก และเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเวลลส์ ฟาร์โกมีผลจะลดต้นทุนลงอีกในอนาคต

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าคาด โดยกระทรวงพาณิชย์รายงาน ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ลดลง 1.9% จากเดือนพ.ย. ลดลงมากสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2021 และมากกว่าการลดลง 0.1% ที่นักวิเคราะห์คาด

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ลดลง 3.1%

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมิชิแกนเผยผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนม.ค.ลดลงสู่ระดับ 68.8 จาก 70.6 ในเดือนธ.ค.และต่ำกว่า 70.0ที่นักวิเคราะห์คาด

หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคอ่อนตัวลง จากข้อมูลยอดค้าปลีกและความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยหุ้น Bath & Body Works และหุ้น Under Armour ต่างลดลงกว่า 2%

หุ้นเน็ตฟลิกซ์เพิ่มขึ้นกว่า 1% หลังประกาศปรับขึ้นราคาสมาชิกในสหรัฐฯและแคนาดา

ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ (17 ม.ค.) เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มค้าปลีกที่ลดลง 2.3% จากความกังวลต่อการปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังผู้บริหารหลายรายออกมาส่งสัญญาณพร้อมที่จะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ขณะที่เงินเฟ้อสูงขึ้นไปที่ระดับ7%

นักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศในประเด็นยูเครน หลังรัสเซียปฏิเสธที่จะจรจากับสมาชิก NATO

สำนักงานสถิติรายงาน เศรษฐกิจ อังกฤษเดือนพ.ย.ขยายตัว 0.9% ซึ่งสูงกว่าคาดและกลับไปที่ระดับก่อนการระบาดของโควิดเป็นครั้งแรก

ด้านเศรษฐกิจเยอรมนีขยายตัว 2.7% ในปี 2021 จากที่หดตัว 4.6% ในปี 2020

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 481.16 จุด ลดลง 4.89 จุด, -1.01%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,542.95 จุด ลดลง 20.90 จุด, -0.28%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,143.00 จุด ลดลง 58.14 จุด, -0.81%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,883.24 จุด ลดลง 148.35 จุด, -0.93%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 83.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.59 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 86.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล