BBIK-BE8 หุ้นเทค 3 เด้ง ‘ภรรยาธนา’-‘ฉัตรพี’ ตัดขายทำกำไร

HoonSmart.com>>ปี 64 เป็นยุคทองของหุ้น”เทค”รวมถึงหุ้นที่มีการลงทุน หรือทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถดึงดูดให้นักลงทุนตามแห่เข้าลงทุน ไม่ว่าจะเป็นหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์มานานแล้ว หรือหุ้นน้องใหม่  โดยตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) รับ 5 หุ้นเข้ามาจดทะเบียน ในกลุ่มเทคโนโลยี(TECH) ซึ่งทุกบริษัทแจกผลตอบแทนให้แก่ผู้จองซื้อหุ้นสุดหรู ประมาณ  92.19-351.39% 

หากเปรียบเทียบราคาเสนอขายให้ประชาชนครั้งแรก (IPO) กับราคาวันสุดท้ายของปี (30 ธ.ค.2564) พบว่า บริษัทบลูบิค กรุ๊ป (BBIK)ให้กำไรสูงที่สุดถึง 351.39 % ตามด้วย บริษัท เบริล 8 พลัส (BE8) 327.50% บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) หรือ DITTO 263.33% บริษัท โปรเอ็น คอร์ป(PROEN) 120% และ บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว (SECURE) 92.19%

โดยเฉพาะ BBIK,BE 8 และ DITTO สามารถปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท (all time high) ที่ 81.25 บาท , 42.75 บาท และ 27.25 บาทตามลำดับ

หุ้นเทคที่แจกกำไรสูงมากกว่า 3 เท่า ไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่ดีเฉพาะคนจองซื้อ IPO เท่านั้น นักลงทุนที่มองเห็นอนาคตสดใสของธุรกิจ ก็กระโดดเข้ามาซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จำนวนมาก อาทิ BBIK ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านกลุยทธ์ และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยีและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีตลาดที่ใหญ่มากในยุคดิจิทัล ในวันที่หุ้นเข้าซื้อขายวันแรก (16 ก.ย.2564) แม้ราคาจะปรับตัวขึ้นสูงกว่า IPO ที่ 18 บาท นาย ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ ก็เข้ามาซื้อหุ้น 2 ล็อต  จำนวน 86,900 หุ้น ราคาหุ้นละ 34 บาท และจำนวน 13,100 หุ้น ราคา 34.50 บาท รวมถึงภรรยา “วรินดา” ซื้อหุ้น 18,000 หุ้น ราคา 35.65 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4 ล้านบาทเศษ

เวลาผ่านมาไม่ถึง 4 เดือน  ราคาหุ้น BBIK กระโดดขึ้นมาแรงมาก วันที่ 29 ธ.ค.2564 นาย ธนา รายงานว่า นางวรินดา เธียรอัจฉริยะ ได้ขายหุ้นจำนวน 10,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 75 บาท เป็นเงิน 750,000 บาท กำไรกว่า 2 เท่าตัวจากต้นทุนที่ซื้อมาราคา 356,500 บาท ปัจจุบันคงเหลือจำนวน 8,000 หุ้น

ทั้งนี้ราคาหุ้น BBIK วันสุดท้ายของปี 2564 (30 ธ.ค.) ระหว่างวันขึ้นไปสูงสุดแตะ 84 บาท ก่อนปิดที่ระดับ 81.25 บาท เพิ่มขึ้น 7.50 บาทคิดเป็น 10.17% ซื้อขายที่ P/E 141.63 เท่า และ P/BV 15.61 เท่า เทียบกับมูลค่าหุ้นทางบัญชีเพียง 5.21 บาทต่อหุ้น  โดยนักวิเคราะห์จาก บล.โนมูระ พัฒนสินให้ราคาเป้าหมาย 74 บาท และบล.กสิกรไทยให้มูลค่าเหมาะสม 63.65 บาท

ส่วน BE8 ราคาขึ้นไปสูงสุดแตะ 44.25 บาท ก่อนปิดที่ 42.75 บาท เทรดที่ P/E 125.55 เท่า นาย ฉัตรพี ตันติเฉลิม กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ รายงานก.ล.ต.ว่า ขายหุ้นออกวันที่ 30 ธ.ค. จำนวน 4 ล็อต รวม 25,000 หุ้น ช่วงราคา 41.50-43 บาทต่อหุ้น คงเหลือประมาณ 85,000 หุ้น บล.กสิกรไทยให้ราคาเป้าหมาย 40.40 บาท

แนวโน้มการลงทุนในปี 2565 คาดว่าหุ้นเทค ยังคงเป็นที่สนใจอย่างต่อเนื่อง แต่นักลงทุนจะต้องพิจารณาข้อมูลให้ดีว่าบริษัทแห่งนั้นทำธุรกิจที่มีอนาคตไกลแค่ไหน จะเข้าไปลุยซื้อ คุ้มค่าความเสี่ยงหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่ขึ้นไปอย่างร้อนแรง หากพื้นฐานไม่แข็งแรง เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา เกรงว่าจะหนีตายไม่ทัน!!!