HoonSmart.com>> “โนวา ออร์แกนิค” หุ้นอาหารเสริมน้องใหม่ วันแรกต่ำจอง -1.45% ราคายังไม่สะท้อนศักยภาพธุรกิจ คาดปี 65 เติบโตโดดเด่น ออกสินค้าใหม่ 4-5 รายการ ตั้งเป้ารักษา GPM ไม่ต่ำกว่า 60% ขยายฐานลูกค้า อัพทีมขายเพิ่มอีก 500 คน เตรียมเริ่มทำ OEM ให้ TV Digital ส่วนต่างประเทศ เล็งขยายไปจีน ช่วงไตรมาส 2/65
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท โนวา ออร์แกนิค (NV) เปิดเผยว่า ราคาหุ้น NV เปิดการซื้อขายวันแรก ที่ 6.80 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ -1.45% จากราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 6.90 บาท โดยมองว่าตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปี ปริมาณการซื้อขายเบาบาง ทำให้ราคาหุ้นไม่ได้สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของ NV
“NV มีจุดเด่นที่ชัดเจนกว่าคู่แข่ง จากการเป็นหุ้นอาหารเสริมครบวงจร ที่มีทั้งโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง มีแบรนด์สินค้าที่หลากหลายและกระจายอยู่ในแต่ละกลุ่มช่วงอายุ ประกอบกับช่องทางการขายที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังเป็นบริษัทไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ทำให้หุ้น NV ไม่ใช่แค่หุ้น Growth Stock แต่เป็นหุ้น Dividend Stock ที่มีการจ่ายปันผลที่ดีด้วย” นายเอกจักร กล่าว
ด้านนายนวพล จันทร์จุฑามาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนวา ออร์แกนิค (NV) ผู้นำในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าแนวโน้มธุรกิจปี 2565 จะกลับไปเติบโตมากกว่าปี 2563 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,293.99 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 780.81 ล้านบาท โดยบริษัทจะเริ่มกลับมาทำการตลาดมากขึ้น โดยเพิ่มทีมงานขายอีก 500 คน เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 1 ล้านราย ด้วยแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ประมาณ 4-5 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ให้อยู่ที่ระดับ 60% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มี GPM อยู่ที่ 70% ส่วนรายได้ปี 2564 คาดว่าจะอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทมีแผนจะร่วมมือกับผู้ให้บริการสื่อโทรทัศน์ (TV Digital) ที่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง โดยบริษัทจะเป็นผู้รับจ้างผลิตให้ (OEM) และบริษัทจะใช้ช่องทาง TV Digital เป็นสื่อโฆษณา ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้เสริมจากธุรกิจ OEM และยังเป็นการช่วยให้ฐานลูกค้ามีขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วย
ขณะที่แผนการขยายตลาดต่างประเทศ บริษัทนำผลิตภัณฑ์ไปวางจำหน่ายบนร้าน Watsons ที่ประเทศจีน ที่มีสาขาอยู่กว่า 5,000 สาขา หลังจากประเทศจีนคาดว่าจะสามารถเปิดประเทศได้ในไตรมาส 2/2565 จากปัจจุบันที่บริษัทได้มีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายอยู่ที่ Watsons ฮ่องกงอยู่แล้ว
“แผนการใช้เงินระดมทุน เรานำไปสร้างโรงงานแห่งใหม่ เพื่อรวมโรงงานทั้ง 5 แห่งเข้าด้วยกัน เพื่อสามารถจัดการระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปปรับปรุงโรงงานเดิมเพื่อเป็นฐานการผลิตสินค้าสมุนไพร คาดว่าจะได้ใบอนุญาตสกัดในช่วง มี.ค.2565 นี้ เบื้องต้นจะเริ่มขายสารสกัดก่อน และคาดว่าจะเห็นสินค้าวางขายในช่วงปลายปี 2565 โดยมีเป้าหมายจะผลักดันให้สินค้าสมุนไพรไทยสู่ตลาดโลก” นายนวพล กล่าว
นอกจากนี้เงินระดมทุนที่เหลือจะนำไปใช้ในการปรับปรุงอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ในพื้นที่ของตนเอง เพื่อใช้เป็นฐานการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางโทรศัพท์ (Telesales) ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ