NV เคาะราคาขาย IPO ที่ 6.90 บาท เปิดจอง 15-17 ธ.ค. เข้า SET ปี64

HoonSmart.com>> “โนวา ออร์แกนิค” หนึ่งในผู้นำธุรกิจอาหารเสริม เตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 150 ล้านหุ้น เคาะราคาที่ 6.90 บาท P/E ที่ 11.07 เท่า ต่ำกว่าคู่แข่งถึง 6 เท่า จุดเด่นมีโรงงานเอง  แบรนด์ผลิตภัณฑ์-ช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ระดมทุนสร้างโรงงานใหม่ คลังสินค้าใหม่ ปรับปรุโรงงาน มั่นใจปี 65 ธุรกิจสดใส กลับมาทำการตลาดมากขึ้น จ่อเริ่มผลิตสินค้าสมุนไพร

นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท โนวา ออร์แกนิค (NV) เปิดเผยว่า NV ได้กำหนดราคาขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น เสนอขายในราคาหุ้นละ 6.90 บาท คิดเป็น P/E ที่ 11.07 เท่า โดยเปิดจองซื้อในวันที่ 15-17 ธ.ค.นี้ และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในสิ้นปี 2564

ทั้งนี้ ได้แต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย อีก 6 บริษัท  ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส , บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน , บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที , บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป , บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) และบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)

“ระดับราคาเสนอขายที่ 6.90 บาท มีความเหมาะสม สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งเมื่อเทียบกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีค่า P/E เฉลี่ยที่ 66.76 เท่า โดย NV มี P/E ที่ต่ำกว่าตลาดถึง 6 เท่า เราคาดหวังว่าหุ้น NV จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน” นายกิตติพันธ์ กล่าว

ด้านนายนวพล จันทร์จุฑามาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนวา ออร์แกนิค (NV) ผู้นำในการผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์การระดมทุนว่า บริษัทจะนำเงินไปลงทุน สร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ และสร้างคลังสินค้าใหม่ โดยรวม 5 คลังสินค้าเดิมเข้ามาเป็นที่เดียวกัน เพื่อรองรับการจัดเก็บสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท

นอกจากนี้จะนำเงินไปปรับปรุงโรงงานเดิม เพื่อการผลิตสินค้าประเภทสมุนไพรและโรงงานสกัดสารสำคัญ เพื่อการขยายสายการผลิตที่ครอบคลุมมากขึ้น ใช้เงินลงทุน 35 ล้านบาท รวมถึงจะใช้ลงทุนปรับปรุงอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ในพื้นที่ของบริษัทเอง เพื่อรองรับการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านทางโทรศัพท์ (Telesales) โดยจะยกเลิกการเช่าอาคารเดิม ใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท ส่วนเงินระดมทุนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

“การเข้าระดมทุนในครั้งนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่ง ทำให้บริษัทมีการเติบโตอย่างยั่งยืน  และสร้างขยายธุรกิจได้อีกมาก เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ประกอบกับจุดเด่นในการเป็นผู้ผลิตสินค้าเอง และขายอาหารเสริมตอบสนองผู้บริโภคตามกระแสของสังคมที่หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น เชื่อว่าจะช่วยให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน” นายนวพล กล่าว

ทั้งนี้แผนการเติบโตในปี 2565 บริษัทจะเริ่มกลับมาทำการตลาดของผลิตภัณฑ์ถั่งเช่ามากขึ้น และจะเริ่มทำการตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตสกัดสารสมุนไพร และสามารถเริ่มผลิตได้ในช่วงเดือน มี.ค.2565

ด้านนายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า NV มีจุดเด่นมีโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเป็นของตัวเอง มีแบรนด์ผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ตอบสนองทุกกลุ่มผู้บริโภคและทุกช่วงอายุ ซึ่งภายหลังการระดมทุน เมื่อนำเงินไปขยายกิจการตามแผน คาดว่าในอนาคตจะมีการเติบโตที่ดีขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำลงใกล้เคียง 0.1 เท่า จากปัจจุบัน 0.27 เท่า

ผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 919.29 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนอยู่ที่ 1,271.73 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้บริษัทหยุดทำการตลาดไปบางส่วน โดยบริษัทได้ให้ความช่วยเหลือภาครัฐ ในการนำช่องจำหน่ายผ่านทางโทรศัพท์ไปให้บริการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาโควิด-19 ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 74.22 ล้านบาท

ส่วนผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลัง (2561-2563) บริษัทมีรายได้รวม 331.58 ล้านบาท , 478.89 ล้านบาท และ 2,239.99 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 17.60 ล้านบาท , 75.65 ล้านบาท และ 780.81 ล้านบาท ตามลำดับ