ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบทรงตัวสัปดาห์นี้ WTI 64-65 ดอลลาร์ เบรนท์ 67-72 ดอลลาร์

HoonSmart.com>>”ไทยออยล์”คาดราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ทรงตัว สหรัฐเลื่อนการระบายน้ำมันคลังสำรอง หลังราคาดิ่งลงมากกว่า 10 ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โอเปกพลัสมติเพิ่มกำลังการผลิต 0.22 ล้านบาร์เรลต่อวันต่ำกว่าข้อตกลงที่ตั้งไว้ที่ 0.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน ด้านดอยช์แบงก์ คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยในไตรมาส 4/64 ที่ 78 เหรียญสหรัฐฯ และจะลดลงสู่ระดับ 72 เหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาส 1/65  

บริษัทไทยออยล์ (TOP) คาดแนวโน้มราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้ (6-10 ธ.ค.2564) จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 64-69 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 67-72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่อง หลังราคาปรับตัวลดลงมากกว่า 10 เหรียญสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากความกังวลต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไรวัสโควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่กระจายไปมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้หลายประเทศมีการใช้มาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่เข้มงวดมากขึ้นกดดันความต้องการใช้น้ำมัน

ขณะที่กลุ่มโอเปกพลัสมีการประชุมวันที่ 2 ธ.ค.64 ที่ผ่านมามีมติเพิ่มกำลังการผลิต 0.22 ล้านบาร์เรลต่อวันต่ำกว่าข้อตกลงที่ตั้งไว้ที่ 0.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้อุปทานในตลาดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากการระบายน้ำมันจากคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) ของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับเลื่อนการปล่อยให้ช้าออกไปจากแผนเดิม หลังราคาน้ำมันมีการปรับลดลงอย่างมากในช่วงปลายเดือน พ.ย.2564 ที่ผ่านมาส่งผลให้สหรัฐฯ ไม่มีความจำเป็นในการเร่งเพิ่มอุปทานในตลาด

ธนาคารดอยช์แบงก์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยในไตรมาส 4/2564 ที่ 78 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลและจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในไตรมาส 1/2565 โดยคาดว่าตลาดน้ำมันดิบจะเข้าสู่ภาวะเกินดุล 1.5 ล้านบาร์เรลในไตรมาสแรกปี 2565 จากอุปทานที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากกลุ่มโอเปกและสหรัฐฯ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมยูโรโซนและญี่ปุ่นไตรมาสที่ 3 ปี 64 ดัชนีราคาผู้บริโภคจีนและสหรัฐฯ เดือน พ.ย.64 รายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมา (29 พ.ย. – 3 ธ.ค. 64) ปรับลดลง 1.89 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 66.26 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เช่นเดียวกันกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 2.84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 69.88 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 70.87 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล