KTIS พลิกขาดทุนปี 64 กว่า 1.1 พันลบ. ปันผล 0.10 บาท

HoonSmart.com>> “เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์” เปิดงบปี 64 พลิกขาดทุนสุทธิ 1,114 ล้านบาท แย่ลงกว่า 296% รายได้รวมลดลง 25.5% ขาดทุนปรับมูลค่ายุติธรรมของตราสารอนุพันธ์กว่า 507 ล้านบาท ขาดทุนซื้อน้ำตาลล้วงหน้า 197 ล้านบาท บอร์ดใจป้ำไฟเขียวควักกำไรสะสมจ่ายเงินปันผล 0.10 บาท ขึ้น XD 30 ธ.ค.นี้ จ่ายเงิน 14 ก.พ.65

บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2564 พลิกขาดทุนสุทธิ 1,114.44 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.29 บาท ลดลง 296% จากงวดปี 2563 มีกำไรสุทธิ 568.71 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.15 บาท

บริษัทฯ มีรายได้รวมในปี 2564 จำนวน 10,412.22 ล้านบาท ลดลง 25.5% จากปี 2563 โดยมีรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้าในปี 2564 ลดลง 3,114.7 ล้านบาท หรือลดลง 23.3% จากปี 2563 เนื่องจากปริมาณอ้อยในฤดูกาลการผลิต 2563/2564 ลดลง ประกอบกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลให้ทั้งรายได้ขากสายธุรกิจน้ำตาลและรายได้จากสายธุรกิจอุตสาหกรรมต่อเนื่องลดลง

รายได้สายธุรกิจน้ำตาลลดลงจากปีก่อน 26.6% จากปริมาณการขายน้ำตาลและกากน้ำตาลรวมลดลง รายได้จากธุรกิจเยื่อกระดาษจากชานอ้อยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.2% จากราคาขายเยื่อกระดาษจากชานอ้อยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น รายได้จากธุรกิจเอทานอลลดลงจากปีก่อน 27.2% จากปริมาณการขายเอทานอลที่ลดลง รายไดเจากการไฟฟ้าลดลงจากปีก่อน 36.8% จากทั้งปริมาณการขายไฟฟ้าและราคาขายไฟฟ้าเฉลี่ยต่อหน่วยลดลง รายได้จากการขายและการให้บริการอื่นเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 36.3% จากรายได้การขายปุ๋ย วัสดุปรับปรุงดินและยาปราบศัตรูพืชและอื่นๆ เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้รายได้ค่าตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาล 12.4 ล้านบาทในปี 2563 และ 2.2 ล้านบาทในปี 2564 เป้นเงินชดเชยที่บริษัทฯ จะได้รับจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เนื่องจากในฤดูกาลผลิต 2561/62 และมีรายได้โครงการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อยของชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาล 282.3 ล้านบาท ในปี 2563 เป็นเงินได้รับจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลสำหรับฤดูกาลผลิต 2561/62 อีกทั้งมีรายได้อื่นในปี 2564 ลดลง 166 ล้านบาท หรือ 49.5% จากปี 2563 เป็นสัดส่วนกับรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้าที่ลดลง

ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเท่ากับ 1,184.3 ล้านบาท ลดลง 29.8% สาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายส่งออกน้ำตาลทราย ค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากร ขนส่ง เดินทาง

นอกจากนี้บริษัทฯ ขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของตราสารอนุพันธ์ 507.6 ล้านบาท ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 33.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 276.6% จากปี 2563 ขาดทุนจากการซื้อขายน้ำตาลล่วงหน้า 197.6 ล้านบาท จากงวดปีก่อนกำไร 17.8 ล้านบาท

คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.10 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 31 ธ.ค. 2564 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 30 ธ.ค. 2564 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 ก.พ. 2565