นักลงทุนแห่จองหุ้น TRV ล้น พร้อมเทรด mai 2 ธ.ค.นี้

HoonSmart.com>>นักลงทุนจองซื้อหุ้นไอพีโอ “ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์” ล้น สะท้อนความเชื่อมั่น พร้อมก้าวเป็นผู้นำการผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า มั่นใจได้รับการตอบรับจากนักลงทุนในวันแรกที่เข้าซื้อขายตลาด mai 2 ธันวาคมนี้

นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บล. คิงส์ฟอร์ด ในฐานะผู้จัดการ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของบริษัท ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ (TRV) เปิดเผยว่า นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อเต็มจำนวน สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท แม้เผชิญสถานการณ์โควิด-19 มั่นใจTRV จะเติบโตต่อไปในอนาคต และได้รับการตอบรับในวันเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดสินค้าอุตสาหกรรม วันที่ 2 ธันวาคม 2564 นี้

ทั้งนี้ TRV เสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 54.56 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท กำหนดราคา IPO หุ้นละ 2.30 บาท โดยมี บล. คิงส์ฟอร์ด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมด้วย บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

ด้านนางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน TRV กล่าวว่า TRV มีปัจจัยพื้นฐานโดดเด่น และภายหลังสถานการณ์โควิด-19 มีทิศทางที่ดีขึ้น รวมทั้งกำลังซื้อที่ฟื้นตัวรับมาตรการภาครัฐ จึงมองว่า TRV จะเป็นหุ้นคุณภาพสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาบริษัท ซึ่งมีเส้นทางและปัจจัยส่งเสริมการเติบโตที่มั่นคง

นายธีรวุฒิ นวมงคลชัยกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TRV เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ประมาณ 125.50 ล้านบาท บริษัทจะนำไปซื้อเครื่องจักร จำนวน 85.00 ล้านบาท ภายในปี 2568 เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน จำนวน 10.00 ล้านบาท ภายในปี 2566 เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 22.83 ล้านบาท ภายในปี 2566 และเป็นค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์ จำนวน 7.67 ล้านบาท ภายในช่วงเวลาเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้

โดยแผนการระดมทุนครั้งนี้จะนำเงินไปใช้ลงทุนซื้อเครื่องจักรจำนวน 15 เครื่อง ซึ่งจะสนับสนุนให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 94 ล้านชิ้น จากกำลังการผลิต ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 จำนวน 98.78 ล้านชิ้นต่อปี (หากคิดจำนวนเต็มปี) คาดกำลังการผลิตจะเพิ่มเป็นประมาณ 192.78 ล้านชิ้นต่อปีในปี 2568

โดยบริษัทฯ มีจุดแข็ง คือ ความเชี่ยวชาญตลอดระยะเวลามากกว่า 20 ปี ได้รับความไว้วางใจในการผลิตและส่งมอบสินค้า ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูป ซึ่งเป็นชิ้นส่วนประกอบของรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น

ปัจจุบัน TRV มีกลุ่มครอบครัวนวมงคลชัยกิจ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ภายหลังไอพีโอถือหุ้นรวมกัน 62.29% และในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ยินดีติดไซเรนท์ พีเรียดในสัดส่วนตามเกณฑ์ และไม่มีนโยบายที่จะขายหุ้นออกไป เพราะเป็นธุรกิจที่ครอบครัวสร้างมากับมือ