HoonSmart.com>> “ซีพี ออลล์” คาดแนวโน้มธุรกิจปี 65 ดีขึ้น จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย หลังคลายล็อกดาวน์ เริ่มเห็นสัญญาณบวก ส่วนแผนเปิดสาขา 7-11 ตั้งไว้ปีละ 700 สาขา เงินลงทุน 1-1.2 หมื่นล้านบาท เปิดทางเร่งเปิดสาขาหากนักท่องเที่ยวกลับมาปกติ ส่วนแผนขยายต่างประเทศ รอจังหวะที่เหมาะสม ด้านการเสนอหุ้น MAKRO อยู่ระหว่างทำ Book Building นักลงทุนสถาบัน นำเงินเสริมสภาพคล่อง-ปรับโครงสร้างหนี้
นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าธุรกิจในปี 2565 จะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการนำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลาย จัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อส่งเสริมยอดขาย ส่วนการคลายล็อกดาวน์ ส่งผลให้จำนวนลูกค้าและยอดขายต่อสาขาต่อวันของบริษัทดีขึ้น
ขณะที่แผนการเปิดสาขา 7-11 ใหม่ โดยปกติตั้งเป้าไว้ปีละประมาณ 700 สาขา ใช้เงินลงทุนประมาณ 10,000-12,000 ล้านบาท รวมถึงใช้ปรับปรุงสาขาเดิมด้วย ส่วนในปี 2564 คาดว่าจะเปิดครบตามเป้าหมายที่ 700 สาขา ซึ่งในไตรมาส 4 คาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 250 สาขา จากช่วง 9 เดือนที่ผ่านไปแล้ว 450 สาขา
ส่วนการขยายสาขาของ 7-11 ในต่างประเทศ รอจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งบริษัทมีใบอนุญาตเปิดสาขาได้ที่ประเทศลาวและกัมพูชา ส่วนประเทศอื่นๆต้องขอใบอนุญาต ด้านการขยายสาขาของ แม็คโคร และโลตัสส์ ก็ต้องดูประเภทที่จะเปิด ถ้าเป็นประเภทธุรกิจร้านขายส่งก็ใช้แบรนด์แม็คโคร ถ้าเป็นร้านค้าปลีก จะใช้แบรนด์โลตัสส์ และร้านสะดวกซื้อจะใช้แบรนด์ 7-11
“ถึงแม้ว่าในปี 2565 สถานการณ์ต่างๆยังไม่แน่นอน แต่เราเชื่อว่าการควบคุมการแพร่ระบาด และการจัดการด้านสาธารณสุขต่างๆน่าจะทำได้ดีขึ้น เราจึงมั่นใจว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และลงทุนขยายสาขา สร้างการเติบโต ถ้าจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาเหมือนปกติจริง เราก็มีความพร้อมที่จะเร่งขยายสาขา” นายเกรียงชัย กล่าว
สำหรับการเสนอขายหุ้นทั่วไป (Public Offering) ของบริษัท สยามแม็คโคร (MAKRO) ที่บริษัทจะร่วมเสนอขายหุ้นเดิม จำนวน 363 ล้านหุ้น และหากมีความสนใจมาก จะพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกินแก่ผู้จองซื้อเกินกว่าจำนวนหุ้นที่จำหน่ายโดยผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน จำนวน 340 ล้านหุ้น ปัจจุบันได้ยื่นไฟลิ่งเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างเปิดให้นักลงทุนสถาบันแสดงความประสงค์ที่จะซื้อหุ้นใหม่ (Book Building) โดยจะนำเงินไปใช้เสริมสภาพคล่องรองรับสถานการณ์ต่างๆในอนาคต และนำไปปรับโครงสร้างหนี้ภายในบริษัท
นายเกรียงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การบันทึกงบการเงินต่างๆหลังการควบรวม ทางบริษัท สยามแม็คโคร (MAKRO) จะบันทึกผลประกอบการของบริษัท เทสโก้ สโตร์ส และ บริษัท เทสโก้ สโตร์ส (มาเลเซีย) เข้ามาเป็นงบรวม และบริษัท ซีพี ออลล์ จะบันทึกงบรวมของ MAKRO เข้ามาเป็นผลประกอบการรวมของ CPALL