CIMBT กวาดเม็ดเงินลงทุนใหม่กว่า 1 แสนล้าน จาก 5 ผลิตภัณฑ์ในปี 64

HoonSmart.com>>CIMBT กวาดเม็ดเงินลงทุนใหม่กว่า 1 แสนล้าน จาก 5 ผลิตภัณฑ์ เดินหน้ารับบุคคลากร Wealth RM และ ผู้จัดการสาขา ต่อยอดการเติบโต รองรับยุทธศาสตร์ Wealth Management ปี 2565

นายตัน คีท จิน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทยได้รับความไว้วางใจบริหารเม็ดเงินลงทุนใหม่ จาก 5 ผลิตภัณฑ์หลัก คือ หุ้นกู้อนุพันธ์แฝง หุ้นกู้ตลาดแรก หุ้นกู้ตลาดรอง กองทุนรวม และ ประกัน รวมเม็ดเงินลงทุนใหม่ กว่า 1 แสนล้านบาท เติบโตเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ และเพื่อรองรับฐานลูกค้าใหม่ที่ขยายตัวเร็ว ต่อยอด AUM ที่เพิ่มสูงขึ้น และรองรับยุทธศาสตร์ Wealth Management ปี 2565 ธนาคารจึงเฟ้นหาบุคลากรดีๆ ที่มีเป้าหมายเดียวกันเข้ามาร่วมงานกับธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ไม่ว่าจะเป็น Relationship Manager ผู้แนะนำการลงทุน ผู้จัดการสาขา และ Investment Specialist

“สาเหตุที่มีเงินลงทุนใหม่เข้ามากว่า 1 แสนล้านบาท เพราะธนาคารมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์การลงทุนของลูกค้าในสภาวะตลาดต่างๆได้อย่างดี และมีผู้แนะนำการลงทุนที่มีความรู้ความสามารถในการแนะนำผลิตภัณฑ์ รวมทั้งมี Wealth Credit Line ที่เพิ่มโอกาสการลงทุนโดยลูกค้าไม่ต้องเพิ่มเงินลงทุน ทำให้ลูกค้าลงทุนได้อย่างมั่นใจ” นายตัน คีท จิน กล่าว

นายภูดินันท์ เศรษฐนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจผลิตภัณฑ์การเงิน และ Head Preferred Banking Management CIMBT กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรกจากลูกค้า ได้แก่

1.หุ้นกู้ตลาดแรก จากหลากหลายผู้ออก ที่ CIMB Thai รั้งอันดับที่ 4 ในการจัดจำหน่าย
2.กองทุนรวมรูปแบบ Open Architecture ร่วมมือกับ 10 บลจ. เลือกสรร กองทุน Best in class เน้นตลาดสหรัฐอเมริกา และเวียดนาม เติบโตกว่า 20% และ 50% ตามลำดับ
3.หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง อ้างอิงหุ้น Equity Linked Note KIKO & SMILE ที่ CIMB Thai เป็นผู้บุกเบิก ผลตอบแทนเฉลี่ย 5-25% ต่อปี
4.หุ้นกู้ตลาดรอง ซึ่ง CIMB Thai ครองตลาดรายย่อย อยู่ถึง 51%
5.ประกันชีวิต Unit Linked และ Universal Life กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้น

นายเพา จาตกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจบริหารเงิน CIMBT กล่าวว่า Equity Linked Note หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงอ้างอิงราคาหุ้น ได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ในปีนี้ เพราะภาวะตลาดหุ้นไทยที่มีลักษณะ sideway up และลูกค้าสามารถเลือกหลักทรัพย์อ้างอิง ราคาหุ้น ผลตอบแทน ตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ ขณะเดียวกัน ภาพรวมของตลาดหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงอ้างอิงราคาหลักทรัพย์ หรือหุ้นใน SET50 ของตลาดรวม ช่วง 10 เดือนแรกของปีมีมูลค่ากว่า 4.55 หมื่นล้านบาท เติบโตเกือบ 80% เช่นเดียวกัน

ผลิตภัณฑ์หุ้นกู้ตลาดรองของธนาคารก็ได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ครองตลาดรายย่อยได้ ถึง 51% สำหรับพอร์ตการลงทุนภาพรวมของปีนี้ ธนาคารปั้นพอร์ต Moderate to Aggressive ให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 10-15%

“หัวใจหลัก ที่ทำให้แบงก์เติบโตได้ก้าวกระโดด คือ การพัฒนาจุดแข็งในสนามที่มีผู้เล่นไม่มาก และการมีส่วนร่วม โดยเป็นผู้เล่นหลักในการสร้างสภาพคล่องให้ตลาดการลงทุนในหลายประเภท ส่งผลให้ได้รับการยอมรับเป็นที่จดจำในตลาด” นายเพา กล่าว