BAM มั่นใจ Q4 ผลเรียกเก็บเข้าเป้า 6.3 พันลบ. จ่อซื้อทรัพย์เพิ่ม 1 หมื่นล้านบ.

HoonSmart.com>> “บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์” มั่นใจผลเรียกเก็บปีนี้เข้าเป้า 17,452 ล้านบาท จ่อปิดการขายทรัพย์ NPA   400 ล้านบาท NPL อีก 100 ล้านบาท นำกลยุทธ์เสริมผลเรียกเก็บสม่ำเสมอ จ่อสรุปซื้อสินทรัพย์เพิ่ม 1 หมื่นล้านบาท ส่วนปี 65 คาดสถาบันการเงินปล่อยสินทรัพย์มากขึ้น ด้านบริษัทร่วมทุนคาดสรุปผลภายในปีนี้ เริ่มจัดตั้งปี 65 เตรียมออกหุ้นกู้เพิ่มอีก 3 พันล้านบาท ย้ำสถานะการเงินแกร่ง มีวงเงินกู้อีก 1 หมื่นล้านบาท

นายรฐนนท์ ฟูเกียรติ ผู้จัดการกลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลเรียกเก็บในไตรมาส 4/2564 ยังสามารถทำได้ตามแผน ประมาณ 6,300 ล้านบาท เพื่อให้ทั้งปีเข้าเป้าหมาย ซึ่งในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เรียกเก็บได้ 3,901 ล้านบาท น้อยกว่าเป้าหมายเดิมที่ 4,240 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาปิดการขายสินทรัพย์รายใหญ่ โดย NPA มีเจรจาอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายประมาณ 3-4 รายการ มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านบาท ส่วน NPL ขนาดกลาง เจรจาอยู่ประมาณ 2-3 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขาย และทำให้ผลเรียกเก็บปี 2564 เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ที่ 17,452 ล้านบาท

บริษัทมีกลยุทธ์ในการเพิ่มฐานลูกหนี้ NPL ที่ปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อช่วยสร้างผลเรียกเก็บได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว ซึ่งประสิทธิภาพของการเรียกเก็บหนี้ของลูกหนี้ปรับโครงการอยู่ที่ประมาณ 300-400 ล้านบาทต่อเดือน ปัจจุบันมี 9 เดือนที่ผ่านมา มีลูกหนี้เข้าร่วมกว่า 1,565 ราย ส่วน NPA ก็เพิ่มจำนวนการขายแบบผ่อนชำระ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ได้ง่ายขึ้น ทั้งสองกลยุทธ์จะช่วยให้รายได้เข้ามาอย่างมั่นคง

ขณะที่แนวโน้มการปล่อยสินทรัพย์ออกสู่ระบบของสถาบันการเงิน คาดว่าจะเริ่มทยอยปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2565 ตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะสิ้นสุดในช่วงสิ้นปีนี้ แต่ก็ต้องติดตามต่อว่าจะมีการขยายมาตรการออกไปอีกหรือไม่ ซึ่งบริษัทยังมีกลยุทธ์ในการเลือกซื้อสินทรัพย์ ตามความเหมาะสมในด้านราคาของสินทรัพย์แต่ละประเภท

นอกจากนี้บริษัทคาดว่าจะมีการซื้อขายมากขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยเบื้องต้นบริษัทได้ชนะการประมูลสินทรัพย์ NPL ไปบ้างแล้วในช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างทำ Due Diligence อีกมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท

ส่วนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน คาดว่าจะจะหาข้อสรุปได้ช่วงสิ้นปี 2564  รอช่วงเวลาที่เหมาะสมการจัดตั้งในปี 2565 นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะจัดตั้งหน่วยธุรกิจหนี้ไม่มีหลักประกัน (หลังจากขายทอดตลาดหลักประกันแล้ว) สำหรับลูกหนี้ที่อยู่ในพอร์ตของบริษัท โดยได้เริ่มจัดตั้งหน่วยงานแล้ว

ทั้งนี้บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้เพิ่ม มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท สถานะทางการเงินยังมีวงเงินกู้เพิ่มเติมจากสถาบันการเงินอีกกว่า 10,000 ล้านบาท  เพื่อรองรับการเติบโต เสริมสภาพคล่องทั้งในระยะสั้น และระยะยาว