ช้อปหุ้นให้ถูกตัว ถือรอขาย 1,680-1,770 จุด

HoonSmart.com>>บล.ทิสโก้เผย บจ.ใน SETกวาดกำไรรวม 2.09 แสนล้าน ไตรมาส 3/64 ต่ำกว่าคาด ตลาดแกว่งสร้างฐาน ก่อนรับลูกเศรษฐกิจโต ผนึกเงินไหลเข้า SSF & RMF เฉียด 4 หมื่นล้านบาท หนุนดัชนีวิ่งขึ้นนิวไฮ 1,680 จุดสิ้นปีนี้  เน้น 5 ธีม ใครมีหุ้นอยู่ในโพยนี้ให้ถือไว้ ถ้ายังไม่มี ซื้อเก็งกำไรสั้นได้ ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส มองเป้าปีหน้า 1,770 จุด  กลุ่มค้าปลีก อาหาร ขนส่ง บันเทิง กำไรฟื้นไตรมาส 4 แนะ  CK- CPALL-CRC-GPSC-JWD-TKS-ORI-SCB-TU-VRANDA

บล.ทิสโก้ รวบรวมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาสที่ 3/2564 จำนวน 634 บริษัท สัดส่วน 94% ของมูลค่าตลาดโดยรวม (เฉพาะบริษัทใน SET) มีกำไรสุทธิรวม 2.09 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน แต่ลดลง 25%เทียบกับไตรมาสที่ 2/2564 สำหรับบจ.ใน mai มีกำไรสุทธิรวม 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109%จากปีก่อนและเพิ่มขึ้น 92% จากไตรมาส 2 (จำนวน 177 บริษัทจาก 182 บริษัท)

บจ.ใน SET หากเทียบกับประมาณการของตลาดโดยรวม (Bloomberg Consensus) จำนวน 192 บริษัท มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 1.74 แสนล้านบาท แย่กว่าตลาดคาด 10% จากที่ตลาดประเมินไว้ที่ 1.93 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็น 74บริษัทมีงบดีกว่าคาด ( %Surprise >= +5%), 42 บริษัทมีงบตามคาด (+/- 5%) และ 76 บริษัทมีงบแย่กว่าคาด (%Surprise <= -5%) หรือคิดเป็นสัดส่วน 38% : 22% : 40% ตามลำดับ

ทั้งนี้ คาดตลาดแกว่งสร้างฐานระยะสั้น เพื่อขยับขึ้นต่อ ขอซึมซับกำไรรวมต่ำกว่าคาดและนักวิเคราะห์จะมีการทบทวนประมาณการ ตลาดจะค่อย ๆ แกว่งซิกแซกขึ้น ทะลุบริเวณ 1,650-1,660 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ เพื่อขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ คาดหวังแรงขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวของผลประกอบการในไตรมาส 4 ต่อเนื่องถึงปีหน้าเป็นต้นไป ตามการกลับมาเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ สศช.ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้โต 1.2% และ 3.5-4.5%ในปี 2565 หลังมีการทยอยคลายล็อกดาวน์และการเปิดประเทศ (Re-opening) รวมทั้งคาดหวังมาตรการกระตุ้นของภาครัฐเพิ่มเติม ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า

นอกจากนี้คาดว่าดัชนีหุ้นจะได้อานิสงส์เชิงบวกจากฤดูกาลของเม็ดเงินกองทุน SSF & RMF ไหลเข้าด้วย โดยในช่วงเดือน พ.ย. – ธ.ค. ปีนี้ คาดว่าไหลเข้าราว 2 หมื่นล้านบาท และ 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ สำหรับนักลงทุนที่ถือหุ้นอยู่ แนะนำให้ถือทนแกว่ง เล็งเป้า SET Index ที่ 1,680 จุดหรือสูงกว่า สำหรับเทรดดิ้งระยะสั้น แนะนำ เลือกเก็งกำไรรายตัว 5 ธีมที่น่าสนใจ

สำหรับผลงานไตรมาสที่ 3/64 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรเติบโตโดดเด่น คือการแพทย์ เพิ่มขึ้น 287% จากปีก่อนและ 163%เทียบไตรมาส 2 และกลุ่มสื่อ เพิ่มขึ้น 317% จากปีก่อนและ 194% เทียบไตรมาสที่ 2 หลักๆเนื่องจาก MAJOR มีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น SF จำนวน 3,160 ล้านบาท และ TKS มีกำไรจากการปรับโครงสร้างธุรกิจจำนวน 784 ล้านบาท กลุ่มที่มีผลประกอบการโดยรวมขาดทุน คือประกัน ท่องเที่ยว รับเหมาก่อสร้าง และอาหาร

ด้านบล.ฟินันเซียไซรัส มองกำไรบจ.ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว หลังกำไรปกติไตรมาสที่ 3/64 ลดลง 12.6% เทียบไตรมาสที่ 2 และเพิ่มขึ้น 121.5% จากปีก่อน ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย 5.5% เพราะถูกกระทบจากการล็อกดาวน์ และเศรษฐกิจชะลอตัว -1.1% จากไตรมาสที่ 2 และลดลง-0.3% จากปีก่อน กลุ่มที่มีกำไรแข็งแกร่งคือการแพทย์ เรือและโลจิสติกส์ อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนกลุ่มวัสดุก่อสร้าง บันเทิง เกษตรอาหาร กำไรแย่กว่าคาด

อย่างไรก็ตาม กำไรบจ.จะฟื้นตัวแข็งแรงในไตรมาสที่ 4 โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic และ Reopening Play ค้าปลีก อาหาร ขนส่งโดยสาร บันเทิง ส่วนกลุ่มท่องเที่ยว ราคาสะท้อนความคาดหวังสูง ยังต้องจับตาจำนวนนักท่องเที่ยวเดือนธ.ค.นี้-ม.ค. 2565

“เราคาดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะทำให้ SET Index ไต่ระดับขึ้นได้ต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ถึงปี 2565 คงเป้าหมายดัชนีปีหน้าที่ 1,770 จุด (อิง EPS ที่ 96 บาทและ PER 18.5 เท่า) โดยระยะกลาง-ยาวยังมองระดับ 1,600 จุดหรือต่ากว่าเป็นจังหวะทยอยสะสม เน้นหุ้น Domestic Play และหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2565 ไม่ถูก Disrupt และมีความยั่งยืนด้าน ESG โดยยังคง Top Pick ได้แก่ CK,CPALL,CRC,GPSC,JWD,TKS,ORI,SCB,TU,VRANDAW”บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุ