HoonSmart.com>>บริษัทไทยแกร่ง ติดอันดับ DJSI โลกประจำปี 2564 เพิ่มจาก 12 บริษัทเป็น 13 บริษัท “เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ฯ”สุดยอด เข้าครั้งแรก ส่วน DJSI ตลาดเกิดใหม่ เพิ่ม 3 บริษัทเป็น 25 บริษัท “เดลต้าฯ-เบอร์ลี่ ยุคเกอร์-กรุงเทพดุสิตเวชการ” เป็นน้องใหม่ “ปตท.”ติดอันดับโลก-อีเมอร์จิ้งปีที่ 10 พาบริษัทในเครือ PTTEP-TOP-IRPC-PTTGC เข้าด้วย “ไออาร์พีซี”ติดอันดับต่อเนื่องปีที่ 8 CPF ปีที่ 7 ด้าน MSCI ลดน้ำหนัก 10 หุ้น เลือก TIDLOR, BEC, TIPH เข้าใหม่กลุ่ม Small Cap คัดออก TKN ด้าน PTT โชว์กำไร 23,653 ล้านบาท Q3/64 เพิ่มขึ้น 67.5% รวม 9 เดือน กำไรทั้งสิ้น 80,819 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 228%
S&P Dow Jones Indices (S&P DJI) ผู้ให้บริการดัชนีชั้นนำของโลก ประกาศผลการคัดเลือกและทบทวนรายชื่อบริษัทที่ได้รับเลือกเข้าเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) โดยใช้เกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในปีนี้ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 22 พ.ย.2564
สำหรับบริษัทไทยที่ได้รับเลือกให้อยู่ในกลุ่มดัชนีโลก( DJSI World) รวม 13 บริษัท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1 บริษัท ได้แก่ 1. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) 2.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) 3.บริษัทปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือปตท.สผ. (PTTEP) 4. บริษัทปตท.(PTT) 5.บริษัทซีพี ออลล์ (CPALL) 6.บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ (ThaiBev) 7. บริษัทอินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) 8.บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) 9. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) 10. บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) 11.บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) 12.บริษัทท่าอากาศยานไทย (AOT) และ 13. บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA ทั้งนี้บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ฯ ติดอันดับ DJSI World เป็นครั้งแรก
ส่วนบริษัทไทยที่ติดกลุ่มดัชนีตลาดเกิดใหม่( DJSI Emerging Markets) ในปีนี้ เพิ่ม 3 บริษัท รวมเป็น 25 บริษัท ได้แก่1.ธนาคารกสิกรไทย 2.ธนาคารไทยพาณิชย์ 3. บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) 4. บริษัทบ้านปู (BANPU) 5.บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) 6.บริษัทปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม 7. บริษัท ปตท. 8.บริษัท ไทยออยล์ (TOP) 9. บริษัท ซีพี ออลล์ 10.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) 11.บริษัทไทยเบฟเวอเรจ 12.บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) 13.บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส 14.บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล 15. บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา 16.บริษัทโฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) 17.บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส 18.บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) 19.บริษัท ท่าอากาศยานไทย 20. บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) 21.บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย 22.บริษัท ผลิตไฟฟ้า(EGCO ) ส่วน 3 บริษัทเพิ่งเข้าใหม่คือ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ฯ 2 บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) และ 3 บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ(BDMS)
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. เปิดเผยว่า ปตท. ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI กลุ่มดัชนีโลก และดัชนีตลาดเกิดใหม่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 นอกจากนี้ บริษัทในกลุ่ม ปตท. ได้แก่ PTTEP,TOP,IRPC,PTTGC ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI อีกด้วย
บริษัท ไออาร์พีซี ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ประจำปี 2564 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil & Gas Refining and Marketing สะท้อนความสามารถในการดำเนินธุรกิจด้วยนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมทั้งคำนึงถึง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ ให้เติบโตไปพร้อมกัน
ด้านนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร CPF กล่าวว่า การได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI มาตลอด 7 ปี แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ CPF ในการเป็นผู้นำสร้างความมั่
บริษัทที่เพิ่มเข้าไปในดัชนี ได้แก่ Alphabet Inc, Medtronic plc, Gilead Sciences Inc ส่วนบริษัทที่ถูกถอดออกจากดัชนีคือ Nestlé S.A., TotalEnergies SE, Humana Inc แต่ Nestlé S.A ยังคงเป็นสมาชิกดัชนี DJSI Europe ส่วน TotalEnergies SE และ Humana Inc ยังคงอยู่ใน DJSI World Enlarged
DJSI World ใช้กระบวนการคัดเลือกที่โปร่งใสและยึดหลักเกณฑ์ โดยพิจารณาจากคะแนน S&P Global ESG ของบริษัทที่ได้จากการประเมินความยั่งยืนของ S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) ประจำปี CSA มีแบบสอบถามที่เข้มงวด เพื่อประเมินทั้งข้อมูลสาธารณะและที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่นำส่งโดยบริษัทที่เข้าร่วมในปีนี้ บริษัทที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์มากกว่า 10,000 แห่งได้รับเชิญให้เข้าร่วมใน S&P Global CSA
ทางด้านดัชนี MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่แล้ว ซึ่งจะมีผลวันที่ 30 พ.ย.นี้ บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน (CNS) เปิดเผยว่า MSCI EM ASIA น้ำหนักการลงทุนเพิ่มขึ้น 0.19% สู่ 78.65% ใน MSCI EM โดยประเทศที่ถูกเพิ่มน้ำหนักมี 4 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ (+484 ล้านเหรียญฯ) อินเดีย (+469 ล้านเหรียญฯ) ฟิลิปปินส์ (+111 ล้านเหรียญฯ) และมาเลเซีย (+64 ล้านเหรียญฯ)
ส่วนประเทศที่ถูกลดน้ำหนักมี 5 ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน (-255 ล้านเหรียญฯ), ไทย (-73.3 ล้านเหรียญฯ), อินโดนีเซีย (-59 ล้านเหรียญฯ), ปากีสถาน (-58 ล้านเหรียญฯ) และจีน (- ล้านเหรียญฯ)
สำหรับ MSCI Thailand ถูกลดน้ำหนักลง -0.02% สู่ 1.64% คิดเป็นแรงขาย -73 ล้านเหรียญฯ
ด้าน MSCI Global Standard Index ของไทย ไม่มีหุ้นเข้า/ออกใหม่ (แต่มองเป็นบวกต่อ BAM และ RATCH หลังพลิกล็อกไม่หลุดอย่างที่คาดการณ์)
หุ้นที่ถูกลดน้ำหนัก ได้แก่ CPALL, PTT, SCC, AOT, BDMS, ADVANC, PTTEP, PTTGC, DELTA, GULF ถูกลดตัวละ -6.4 ล้านเหรียญฯ ถึง – 2 ล้านเหรียญฯ
ส่วน MSCI Small Cap ของไทย มีหุ้นเข้าใหม่ ได้แก่ TIDLOR, BEC, TIPH และมีหุ้นถูกคัดออก ได้แก่ TKN
บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 3/2564 มีกำไรสุทธิ 23,652.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,533 ล้านบาท หรือ 67.5% จากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14,120.18 ล้านบาท และลดลง 925 ล้านบาทหรือ 3.8% จากไตรมาสที่ 2/2564 มีกำไรสุทธิ 24,578 ล้านบาท รวม 9 เดือนปีนี้ มีกำไรทั้งสิ้น 80,819.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 228% จากที่มีกำไรสุทธิ 24,619.12 ล้านบาทช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 3/2564 มีกำไรจากสต็อกน้ำมัน 2,000 ล้านบาท รวม 9 เดือนปีนี้ ได้กำไรสต็อก 39,000 ล้านบาท บริษัทปตท.สผ. รับรู้กำไรจากการซื้อแหล่งโอมาน แปลง 61 และบริษัทไทยออยล์กำไรจากหุ้น UBE 260 ล้านบาท