BANPU กำไร 3.5 พันลบ.พุ่งขึ้น 763% กระแสเงินสดแกร่ง Q3

HoonSmart.com>>”บ้านปู”โชว์ผลงานสุดสวยตามคาด ไตรมาส 3/64  ได้ราคาถ่านหินก๊าซธรรมชาติหนุน พอร์ตพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พัฒนาต่อยอดระบบนิเวศทางธุรกิจให้ครบวงจรยิ่งขึ้น 

บริษัท บ้านปู (BANPU) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ประกาศผลดำเนินธุรกิจในไตรมาส 3/2564 ที่น่าพอใจ สร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง ด้วยรายได้จากการขายรวม 1,161 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 38,218 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 147% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) รวม 530 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 17,432 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 72% และมีกำไรสุทธิ 106 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,489 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 763%  และเพิ่มขึ้น ประมาณ 100% เทียบกับไตรมาสที่ 2 ที่มีกำไรสุทธิ 1,325 ล้านบาท เนื่องจากราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติปรับตัวขึ้น และบ้านปูยังมุ่งมั่นเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาต่อยอดระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่ม (Banpu Ecosystem) ให้แข็งแกร่งและครบวงจรยิ่งขึ้น พร้อมส่งมอบอนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เปิดเผยว่า บ้านปูมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน ซึ่งมีรายได้เติบโตจากราคาขายที่สูงขึ้น และการดำเนินการตามแผนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่สามารถรองรับความไม่แน่นอนของราคาและความต้องการของกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ด้านพลังงาน จึงเป็นโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงราคาตลาดปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง พร้อมขยายพอร์ตธุรกิจเพื่อเสริมระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่มบ้านปู โดยเฉพาะธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้นและเทคโนโลยีพลังงานตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ที่สอดคล้องกับเทรนด์พลังงานในอนาคต รวมถึงความต้องการและคาดหวังในเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม

กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน มีผลประกอบการที่ดีจากราคาขายถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่เฉลี่ยเพิ่มขึ้น โดยธุรกิจเหมืองมี EBITDA  399 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 13,134 ล้านบาท) ส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ มี EBITDA 122.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4,030 ล้านบาท)

กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน มี EBITDA 2.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 85 ล้านบาท) อ่อนตัวลงเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

สำหรับธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 3 แห่งของบริษัทฯ ในจีน รวมถึงโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง ซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้รับผลกระทบจากต้นทุนถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่โรงไฟฟ้าเอชพีซีในสปป.ลาว และโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีในไทยยังสามารถผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าด้ายค่าความพร้อมจ่าย (EAF) ในระดับที่ดี ส่วนโรงไฟฟ้า นาโกโซ ในญี่ปุ่นยังสามารถสร้างผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจอย่างต่อเนื่อง ด้านธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจีนและญี่ปุ่นคงประสิทธิภาพการจ่ายไฟได้เป็นอย่างดี แม้สภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ การลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ CCGT “Temple I” ในสหรัฐอเมริกา ได้เสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา

กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน บริษัทฯ มี EBITDA 5.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 179 ล้านบาท) ในขณะที่ยังคงเร่งเดินหน้าลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและ โซลูชันด้านพลังงานที่มีศักยภาพสูง โดยได้ขยายและพัฒนาบริการของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจการจัดการใช้พลังงานด้วยการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในในบริษัท เอ็นจี เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย)  ถือเป็นการเสริมแกร่งระบบนิเวศพลังงานฉลาดของบ้านปู เน็กซ์อย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนั้น ในเดือนพ.ย.2564 บริษัท BPIN Investment Co., Ltd. (BPINI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บ้านปู เน็กซ์   ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายเพื่อขายหุ้นทั้งหมดที่ถือในบริษัท Sunseap Group Pte., Ltd.  ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในสิงคโปร์ เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการการลงทุน   เพื่อสร้างความเติบโตในธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้นตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter ต่อไป

บ้านปูยังคงมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้หลัก ESG ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าและความไว้วางใจให้กับผู้มีส่วนได้เสียและสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบ้านปูได้รับรางวัลเกียรติยศบริษัทจดทะเบียนด้านความยั่งยืน จาก SET Awards 2021 ในกลุ่ม Sustainability Excellence ต่อเนื่องกันปีนี้เป็นปีที่ 4 และยังได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” (THSI) ประจำปี 2564 ต่อเนื่องกันปีนี้เป็นปีที่ 7

“บ้านปูยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG ไปพร้อมกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของประเทศไทยและระดับโลก  โดยบริษัทฯ จะดำเนินมาตรการในด้านต่าง ๆ เพื่อลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง และมุ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งเป้าหมายการมี EBITDA จากธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้นและเทคโนโลยีพลังงานในสัดส่วนมากกว่า  50% ภายในปี 2568” นางสมฤดี กล่าว