TCAP Q3กำไร 1,333 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสก่อน

HoonSmart.com>>ทุนธนชาต โชว์ ไตรมาส 3 กำไรเพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสก่อน จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น รับรู้กำไรจากเงินลงทุนในบริษัทลูก หาจังหวะถือหุ้น TTB เพิ่มหลังธปท.ไฟเขียวถือได้ไม่เกิน 24.99%

นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต (TCAP) กล่าวว่า ไตรมาส 3 TCAP และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 1,687 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยกำไรสุทธิของบริษัทย่อย 857 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 413 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ มีจำนวน 1,333 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 109% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน เกิดจากรายได้จากการดำเนินงานสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย

ขณะที่ธุรกิจของบริษัทร่วมทั้งธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) และ บริษัท เอ็ม บี เค (MBK) ยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่วนกำไรสุทธิงวด 9 เดือน มีจำนวน 3,518 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากในไตรมาส 1 ปีก่อน TCAP มีกำไรพิเศษจากการขายหุ้นอายิโนะโมะโต๊ะ จำนวนประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรพิเศษที่เกิดขึ้นครั้งเดียว หากไม่รวมกำไรพิเศษดังกล่าว TCAP และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 18%

“แม้ปีนี้ธุรกิจของบริษัทร่วมทั้ง TTB และ MBK จะยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของภาครัฐ แต่ TCAP และบริษัทย่อยยังมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีก่อน เป็นผลจากการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง ด้วยการปรับโครงสร้างทางการเงินสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทย่อย และการลงทุนในธุรกิจเพิ่มเติม ทั้งการลงทุน 100% ในบริษัท ธนชาต พลัส จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกัน (Asset-based Financing) การปรับโครงสร้างการลงทุนในหุ้นของบริษัทย่อย 3 บริษัท (บริษัท เอ็ม บี เค ไลฟ์ ประกันชีวิต ,บริษัท ที เอ็ม โบรคเกอร์ และ บริษัท เอ็ม ที เซอร์วิส 2016 ) ด้วยการถือหุ้น 100% ในทั้ง 3 บริษัท และการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) TTB และ MBK เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น สำหรับ TTB นั้น TCAP ได้รับอนุญาตจาก ธปท. ให้ถือหุ้นเพิ่มเติมได้ไม่เกิน 24.99% ซึ่งฝ่ายจัดการจะพิจารณาเพิ่มสัดส่วนอย่างรอบคอบในจังหวะเวลาที่เหมาะสมต่อไป”

สำหรับไตรมาส 4 ปี 2564 และปี 2565 ภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวจากมาตรการผ่อนคลายการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตามจำนวนผู้ได้รับวัคซีนที่เพิ่มขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงธุรกิจที่ TCAP ลงทุนอยู่ในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม ทั้งนี้บริษัทยังยึดมั่นที่จะสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมอย่างยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ด้วยการดูแลทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มความสามารถ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสนับสนุนทุกฝ่ายให้ก้าวผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน