ดาวโจนส์ร่วง 240 จุด วิตกเงินเฟ้อเร่งขึ้นดอกเบี้ย

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ร่วง 240 จุด เงินเฟ้อเดือนต.ค.พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 30 ปี วิตกเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น แรงขายหุ้นเทคโนโลยี ซื้อแบงก์ธนาคาร ทองคำและบิตคอยน์  ราคาน้ำมันลดลง 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์  วันที่ 11 พ.ย. 2564 ปิดที่ 36,079.94 จุด ลดลง 240.04 จุด หรือ 0.66% จากเงินเฟ้อเดือนตุลาคมที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 30 ปี ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,646.71 จุด ลดลง 38.54 จุด, -0.82%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,622.71 จุด ลดลง 263.84 จุด, -1.66%

กระทรวงแรงงานรายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 6.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 1990 และสูงกว่า 5.9% ที่นักวิเคราะห์คาด เมื่อเทียบรายเดือนดัชนีเพิ่มขึ้น 0.9% สูงกว่า 0.6% ที่นักวิเคราะห์คาด

เงินเฟ้อพื้นฐานหรือ Core CPI ที่ไม่รวมอาหารและพลังงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อของธนาคารกลาง(เฟด) เพิ่มขึ้น 4.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนกันยายน และสูงกง่าที่นักวิเคราะห์คาดเล็กน้อย

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 11.6 จุดหลังจากการรายงานเงินเฟ้อไปที่ 1.565% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้น 9.7 จุดไปที่ 1.918%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นส่งผลให้นักลงทุนขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และซื้อกลุ่มธนาคาร พร้อมหันไปซื้อทองคำและบิตคอยน์

หุ้นแอมะซอน ลดลง 2.63% หุ้นแอปเปิลลดลง 1.92% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 2.03% หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ลดลง 2.3% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.53%

ส่วนในกลุ่มธนาคาร หุ้นเวลส์ ฟาร์โก เพิ่มขึ้น 0.94% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 0.78% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 0.32%

ลิซ แอนน์ นักวิเคราะห์จาก Charles Schwab กล่าวว่า ข้อมูลเงินเฟ้อในวันนี้มีผลให้ตลาดอ่อนตัวลง และมีผลต่อตลาดพันธบัตรระดับหนึ่ง

แนนซี เดวิส ผู้ก่อตั้ง Quadratic Capital Management กล่าวว่า ข้อมูล CPI แสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมายของเฟดอีกเดือนหนึ่ง เป็นผลจากปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานและการขาดแคลนแรงงาน หากเงินเฟ้อยังไม่อ่อนตัวลง เฟดอาจจะเพิ่มขนาดการลดซื้อพันธบัตรให้มากขึ้นและเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะกระทบหุ้นและพันธบัตร

กระทรวงแรงงานรายงานการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 267,000 ราย ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มสื่อที่เพิ่มขึ้น 1.3% แม้เงินเฟ้อเดือนตุลาคม

สหรัฐฯสูงกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนขานรับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

หุ้น Marks & Spencer เพิ่มขึ้น 16.5% จากกำไรไตรมาสมาสที่สูงเกินคาด
หุ้น ITV บริษัทสื่อในอังกฤษเพิ่มขึ้น 15.1% หลังคาดการณ์ รายได้จากการโฆษณาปีนี้สูงเป็นประวัติการณ์

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 483.76 จุด เพิ่มขึ้น 1.05 จุด, +0.22%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,340.15 จุด เพิ่มขึ้น 66.11 จุด, +0.91%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,045.16 จุด เพิ่มขึ้น 1.89 จุด, +0.03%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,067.83 จุด เพิ่มขึ้น 27.36 จุด, +0.17%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2.81 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 81.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2.14 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 82.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เร