IVL ลั่นกำไรปีนี้นิวไฮ EBITDA ทะลุเป้าแตะ 2 พันล้านเหรียญ

HoonSmart.com>> “อินโดรามา เวนเจอร์ส” ประกาศปี 64 รายได้-กำไรสุทธิ ทำนิวไฮ EBITDA แตะ 2 พันล้านเหรียญ สูงเกินเป้าที่ตั้งไว้ 1.5-1.6 พันล้านเหรียญ  อัตรากำไรสูง ไตรมาส 4 โตต่อ ส่วนปี 65 ไปได้สวย ความต้องการสูง ราคาผลิตภัณฑ์ดี จ่อปิดดีลซื้อ Oxiteno ไตรมาส 1 นี้ เริ่มรับรู้กำไรทันที 

นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริการ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรสุทธิในปี 2564 จะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ (New High) จาก 9 เดือนแรกทำได้จำนวน 339,848.60 ล้านบาท และ 20,896.49 ล้านบาท ตามลำดับ โดยคาดว่ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBTIDA) เพิ่มขึ้น 25% จากเป้าหมายเดิมมาอยู่ที่ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา คาดการณ์ไว้ที่ 1,500-1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ

ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาส 4/2564 ปกติแล้วจะเป็นช่วงที่ไม่ค่อยดี (Low Season) แต่ปีนี้ค่อนข้างแตกต่าง เนื่องจากการควบคุมตามนโยบายของประเทศจีน ทำให้ตลาดค่อนข้างตึงตัว และสินค้าคงเหลือในระบบที่ต่ำ แต่ความต้องการที่สูง ทำให้อัตรากำไรของผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้น

ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจ Integrated Oxides and Derivatives (IOD) ที่อยู่ในช่วง Downstream มีความต้องการค่อนข้างแข็งแกร่ง ระดับ Crack Margin อยู่ในบริเวณสูง และ MTBE ก็เริ่มมีการฟื้นตัว มีอัตราส่วนกำไรที่ดีขึ้น จากความต้องการที่มากขึ้น ซึ่งบริษัทคาดว่าราคาบิวเทนจะยังคงสูงต่อเนื่องในช่วงฤดูหนาว ส่วนโรงงานที่ประเทศบราซิลก็จะกลับมาเริ่มดำเนินการเร็วๆนี้ นอกจากนี้จะมีรายได้จากประภัยจากธุรกิจหยุดชะงักของโรงาน Lake Charles Cracker (IVOL) เข้ามาด้วย

ส่วนปี 2565 แนวโน้มธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง จากการเริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานของบริษัท Oxiteno ที่เข้ามาเสริมธุรกิจ IOD ด้าน Downstream และได้ปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น จากการที่โรงาน Lake Charles Cracker (IVOL) กลับมาดำเนินการปกติ รวมถึงได้ปริมาณการผลิตของโรงงานที่ประเทศบราซิลจะปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งอัตรากำไรกลุ่มธุรกิจแต่ละผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้น ตามเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้บริษัทยังมีข้อได้เปรียบจากข้อตกลงสัญญาราคาซื้อขายใหม่ในปีหน้าด้วย

สำหรับการลงทุนหลักในปี 2565 บริษัทยังมุ่งเน้นสร้างการเติบโตของบริษัท Oxiteno เป็นหลัก คาดว่าจะสามารถสรุปการซื้อกิจการได้ในช่วงไตรมาส 1 มูลค่าการลงทุนประมาณ 1,150 ล้านเหรียญสหรัฐ  ถ้ารับรู้ผลประกอบการเต็มปีจะมี EBTIDA อยู่ที่ปีละ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนเงินลงทุนอื่นๆ 400,000 เหรียญสหรัฐ ใช้สำหรับซ่อมบำรุงและปรับปรุงต่างๆ และอีก 600,000 เหรียญสหรัฐ ใช้สำหรับสร้างการเติบในด้านอื่นๆ นอกนี้บริษัทก็ยังมองหาโอกาสลงทุน เพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต

ด้านฐานะการเงินในปัจจุบันบริษัทค่อนข้างมีความแข็งแกร่ง โดยในปี 2564 คาดว่าจะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 1,300-1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าหลังควบรวมกิจการ Oxiteno จะมีอัตราหนี้สินต่อทุนสุทธิ (Net D/E) เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ที่ 1.4 เท่า และเมื่อเริ่มรับรู้ผลประกอบการเข้ามา จะมีกระแสเงินสดไหลเข้ามาทำให้ D/E ลดลงมาอยู่ที่ 1.1 เท่า ในช่วงปลายปี 2565 และลดลงเหลือ 0.8 เท่า ในช่วงปลายปี 2566

นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น บริษัทจะได้รับกำไรสินค้าคงคลัง จากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูง แต่ก็มีผลกระทบในด้านต้นทุนพลังงานปรับตัวขึ้น ทั้งปีนี้กระทบไปประมาณ 128 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งบริษัทก็ได้เรียกเก็บเงินกับลูกค้าบางส่วน ถึงแม้จะได้รับผลกระทบ แต่ก็ยังมีผลประกอบการที่ถือว่าดีมาก ซึ่งในปี 2565 ก็คาดว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ