HoonSmart.com>> “เบริล 8 พลัส” ร้อนแรงเหนือคาด หุ้นเข้าเทรดวันแรก เปิดราคา 26 บาท แจกกำไร 160 % ธุรกิจโตตามเมกะเทรนด์ Digital Transformation คาดรายได้ปี 64 โต 25% งานให้บริการ-ขายสินค้าตัวเอง-รายได้ประจำเพิ่ม ระดมทุนลงทุนตามแผน เริ่มขยายธุรกิจในเวียดนาม พัฒนาสินค้า ขยายกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง-เล็ก เล็งร่วมมือพันธมิตร-ซื้อกิจการ ทั้งใน-ต่างประเทศ มั่นใจอนาคตโตตาม Cloud and IT Services
นักลงทุนพร้อมใจลุยหุ้นบริษัทบริล 8 พลัส (BE8) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 8 พ.ย. 2564 ราคาเปิดกระโดดที่ 26 บาท เพิ่มขึ้น 16 บาท หรือ 160% จากราคาเสนอขาย IPO อยู่ที่ 10 บาท ระหว่างขึ้นไปสูงสุดแตะ 27.50 บาท และลงไปต่ำสุดที่ 24.20 บาท สุดท้ายปิดที่ 26 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 2002.50 ล้านบาทสำหรับครึ่งวัน
นายอภิเษก เทวินทรภักติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบริล 8 พลัส (BE8) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2564 จะเติบโตที่ระดับ 25% จากปีก่อนที่มีรายได้ที่มีรายได้จากการขาย และให้บริการอยู่ที่ 312.54 ล้านบาท มาจากรายได้งานให้บริการ ให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น ขายผลิตภัณฑ์ที่บริษัทพัฒนาเองมากขึ้น รวมถึงงานให้เช่าสิทธิ และดูแลผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นรายได้ประจำ และคาดว่ากำไรสุทธิจะมีการเติบโตจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23.64 ล้านบาท
ขณะที่แผนการใช้เงินระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ขยายธุรกิจที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งยังมีศักยภาพและโอกาสในการเติบโตอีกมาก เนื่องจากประเทศเวียดนามมีความต้องการเทคโนโลยีค่อนข้างสูง ซึ่งบริษัทมีจุดเด่นที่เป็นที่ให้บริการ Digital Transformation แบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ (End-To-End Digital Transformation Expert) ให้มีความแข็งแกร่งและก้าวทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ส่วนเงินระดมทุนอีกส่วนจะนำไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นของบริษัทเอง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบถ้วน โดยการนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาต่อยอดในการสร้างผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังเป็นการขยายฐานลูกค้า ไปยังกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็กที่มีความต้องการเทคโนโลยีเพิ่มเติมด้วย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ มีอัตรากำไรที่ดี มีต้นทุนที่ต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ที่ซื้อจากผู้ผลิตรายอื่น ส่งผลให้ในอนาคตอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิมีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ 50% และ 20-23% ตามลำดับผลิตภัณฑ์คิดเป็นสัดส่วน 5-10% ของรายได้รวม
นอกจากนี้บริษัทก็มีแผนสร้างการเติบโตอื่นๆ โดยการร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ หรือซื้อกิจการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมองหาการลงทุนทั้งในอุตสาหกรรมอื่นๆ และอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อช่วยกันสร้างการบริการ และผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ อีกทั้งยังเป็นขยายกลุ่มลูกค้านด้วย สำหรับเงินลงทุนตั้งไว้ที่ประมาณ 300 ล้านบาท
“เราอยู่ใน Mega Trend ของ Digital Transformation ซึ่งตลาดยังถือว่ามีคู่แข่งทางธุรกิจที่น้อย ทำให้โอกาสการเติบโตมีค่อนข้างสูง เราเชื่อว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้น สะท้อนจากแผนการใช้เงินระดมทุนในครั้งนี้ อีกทั้งแนวโน้มอุตสาหกรรม Cloud and IT Services ยังมีแนวโน้มเติบโตที่สูง จากปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 70,000 ล้านบาท นอกจากนี้จากการที่เรานำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยการบริหาร ก็เป็นการลดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ในอนาคตเมื่อรายได้เราเติบโตขึ้น ก็จะยิ่งส่งผลอัตรากำไรขั้นและกำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายค่อนข้างคงที่” นายอภิเษก กล่าว
ด้านดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและตัวแทนผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า ราคาหุ้น BE8 เปิดซื้อขายวันแรกที่ 26 บาท เพิ่มขึ้น 160% สะท้อนจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว ประกอบกับเป็นหุ้นกลุ่ม Tech ที่มีความโดดเด่น มีการให้บริการ Digital Transformation แบบครบวงจร อีกทั้งสภาวการณ์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีโดยรวมยังสนับสนุนธุรกิจให้มีความศักยภาพเติบโตให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพในระยะยาว