HoonSmart.com>> บล.เมย์แบงก์ฯ แนะเลือกหุ้นกำไรเด่นต่อเนื่อง แจก NER-JMT-ASK รอซื้อหุ้นเจอพิษโควิด หลังงบออก ราคามีโอกาสดีดขึ้น ชอบ KBANK-CPN-SNNP-SCGP จ่อเพิ่มกำไรกลุ่ม Reopening บล.หยวนต้า ชวนเก็งกำไรสั้นหุ้นงบดี PTTEP-NER-APURE-BCH-JWD ขายทำกำไรหลังงบออก ส่วนกลุ่ม Reopening ชอบ AOT-SHR-BBL-CPALL แนะซื้อหลังงบออก บล.โนมูระฯ ชอบ SINGER-JMT หุ้นเปิดประเทศชอบ BEM-ERW-BJC-CPN-WHA-MAJOR-M
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การลงทุนในช่วงนี้นักลงทุนควรเลือกหุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาส 3 จะออกมาดี และต้องดีขึ้นต่อเนื่อง หรือเลือกหุ้นที่โดนผลกระทบโควิด-19 ซึ่งไตรมาส 4 จะเป็นจุดฟื้นตัวขึ้น ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ
สำหรับหุ้นที่คาดว่ากำไรจะออกมาดีในไตรมาสที่ 3 และในไตรมาส 4 รวมถึงปี 2565 จะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับยังมีปัจจัยบวกในอนาคตที่รออยู่ แนะนำ NER ราคาเป้าหมาย 9 บาท , JMT ราคาเป้าหมาย 58 บาท และ ASK ราคาเป้าหมาย 55 บาท
ส่วนกลุ่มธนาคารได้ประกาศผลประกอบการครบแล้ว โดยรวมดีกว่าที่คาดถึง 10% มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรของกลุ่มนี้ แนะนำ KBANK ปรับราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 170 บาท จากเดิม 160 บาท ส่วนกลุ่ม Domestic Play มีแนวโน้มจะปรับประมาณการกำไรขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2564 และการกระตุ้นการบริโภคของรัฐ
“เราชอบกลุ่ม Domestic Play เพราะไตรมาส 3 ที่โดนผลกระทบโควิด-19 ได้ผ่านไปแล้ว และไตรมาส 4 จะเป็นจุดที่ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด แนะนำ CPN ที่ราคา 60 บาท , SNNP ที่ 13.50 บาท และ SCGP ที่ 72 บาท โดยรอซื้อหลังประกาศงบ ส่วนกลุ่มอื่นๆก็ต้องรอดูหลังการประกาศงบไตรมาส 3 แล้วเสร็จ ถึงจะพิจารณาว่าควรปรับขึ้นหรือปรับลดลง” นายวิจิตร กล่าว
ด้านนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นที่ผลประกอบการไตรมาส 3/2564 คาดว่าจะออกมาดี แนะนำ PTTEP, NER, APURE, BCH และJWD โดยแนะนำเก็งกำไรสั้นๆ ขายทำกำไรเมื่อประกาศผลประกอบการ ซึ่งประเมินว่าหลังจากประกาศงบแล้วเสร็จ ราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวได้ไม่ดีมาก เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4 จะไม่เด่นเท่ากับไตรมาส 3
ขณะที่การลงทุนหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 แล้วเสร็จ มองว่าเป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มเปิดเมือง หรือที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ แนะนำ AOT, SHR, BBL และ CPALL โดยมีโอกาสจะปรับประมาณการกำไรของกลุ่มนี้ขึ้นด้วย ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสจะปรับตัวขึ้นต่อ เนื่องจากรัฐผ่อนคลายมาตรการเร็วกว่าคาด ประกาศยกเลิกการเคอร์ฟิว และเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้
ส่วนนายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล. โนมูระ พัฒนสิน แนะนำ SINGER และJMT คาดว่าผลประกอบการจะออกมาดี ส่วนหุ้นกลุ่มเปิดเมือง ควรเลือกซื้อหุ้นที่ราคายังมีส่วนลด จากช่วงก่อนเกิดโควิด-19 หรือราคาหุ้นยังต่ำกว่าปลายปี 2562 โดยมีหุ้นเด่น ได้แก่ BEM, ERW, BJC, CPN, WHA, MAJOR และ M
อ่านข่าว
ศบค.ลดพื้นที่แดงเข้มเหลือ 7 จว.-ปลดล็อคกินเหล้าเบียร์ในร้าน โบรกฯแนะเก็บหุ้น