HoonSmart.com>> “ไวส์ โลจิสติกส์” มั่นใจรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 45% ผนึกพันธมิตรมาเลเซีย ตั้งบริษัทร่วมทุน เปิด 3 สาขา คาดปี 65 รายได้แตะ 200 ล้านบาท ส่วนประเทศจีน เปิด 1 สาขา ที่หนิงโป รายได้ 200 ล้านบาท เช่นกัน เล็งขยายประเทศอื่นในอนาคต มองหาโอกาสซื้อกิจการในประเทศ
นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 2564 จะเติบโต 45% หรือ 5,800 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 4,005.96 ล้านบาท แนวโน้มในครึ่งปีหลัง ธุรกิจเป็นช่วงที่มีปริมาณการขนส่งจำนวนมาก (High Season) และภาวะการส่งออกของประเทศไทยมีการเติบโตที่ดีขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา แนวโน้มในไตรมาส 4 คาดว่าจะดีต่อเนื่อง และค่าระวางเรือในปัจจุบันยังคงทรงตัวในระดับที่สูง
ด้านคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทย่อย คือ WICE Logistics (Singapore) Pte. Ltd ทำสัญญาร่วมทุนสัดส่วน 70% กับหุ้นส่วนชาวมาเลเซีย สัดส่วน 30% ตั้งบริษัท WICE Logistics (Malaysia) Sdn. Bhd. มีทุนเริ่มต้น 700,000 ริงกิตมาเลเซีย มีสาขาย่อย 2 สาขา ได้แก่ สาขายะโฮร์ บาห์รู และ สาขาปีนัง เพื่อขยายฐานลูกค้าในประเทศมาเลเซีย กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยการเชื่อมต่อโครงข่ายการขนส่งและโลจิสติกส์จากประเทศสิงคโปร์
ขณะเดียวกัน WICE Logistics (Hong Kong) Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ WICE ได้ขยายสาขาเพิ่มแห่งที่ 4 ที่เมืองหนิงโป มลฑลเจ้อจียง ประเทศจีน จากปัจจุบันเปิดสาขาในเมือง กวางเจา เซี่ยงไฮ้ และ เซินเจิ้น โดยเมืองหนิงโป มีปริมาณตู้คอนเทนเนอร์เข้าและออกเป็นอันดับสามของโลกอยู่ที่ 28 ล้านตู้ต่อปี ทำให้ศักยภาพในการเติบโตยังมีอยู่ค่อนข้างมาก และรองรับความต้องการขนส่งสินค้าในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนและการเปิดสาขาแห่งใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรต่างประเทศที่มีศักยภาพ ทั้งมาเลเซีย และ จีน ในการขยายโครงข่ายการให้บริการขนส่งสินค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมต่างๆ ขณะเดียวกันยังเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างประเทศ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการบริการด้านต่างๆ คาดว่าในปี 2565 บริษัทจะมีรายได้จากการให้บริการทั้ง WICE Logistics (Malaysia) ประมาณ 200 ล้านบาท และคาดว่ารายได้เฉพาะสาขา WICE Logistics (Ningbo) เพียงสาขาเดียวอีกประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนปีนี้มั่นใจว่ารายได้จะเข้าเป้าที่ 45% หรืออาจจะมากกว่าเป้าด้วย” นายชูเดช กล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายสาขาไปยังประเทศอื่น หรือเมืองอื่นๆเพิ่มเติม โดยมุ่งเน้นการขยายในพื้นที่เอเชียก่อน ด้วยการเชื่อมโยงเครือข่ายการบริการ และฐานลูกค้าเดิมเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทยังมีการเจรจาซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป คาดว่าในปี 2565 จะมีรายได้เติบโตในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 20%