HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 13.53 จุด สวนทางภูมิภาค ไร้ปัจจัยบวกใหม่หนุน ผสมแรงขายปรับพอร์ตจากกองทุนก่อนบจ.แจ้งงบ นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 3.1 พันล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 4 พันล้านบาท ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,650 จุด การลงทุนระยะเส้นเน้นเก็งผลประกอบการไตรมาส 3/2564 ชู ASK-JMT-COM7-NER
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 19 ต.ค. 2564 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,630.39 จุด -13.53 จุด หรือ -0.82% มูลค่าการซื้อขาย 96,547.31 ล้านบาท
นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 3,125.32 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,591.57 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 4,069.83 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 647.06 ล้านบาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัว Sideways Down สวนทางตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับขึ้น โดยตลาดหุ้นไทยตอบรับข่าวปัจจัยบวกในช่วงก่อนไปหมดแล้ว และวันนี้มีแรงขายจากกองทุนเพื่อปรับพอร์ตให้เข้ากับช่วงรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2564 ด้วย
ส่วนแนวโน้มของตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ (20-21 ต.ค.2564) มองว่าตลาดหุ้นไทย เคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,650 จุด โดยยังไม่มีปัจจัยบวกหนุนตลาด ให้แนวรับสำคัญไว้ที่ 1,625 จุด และ 1,600 จุด ถ้าไม่หลุดตลาดจะยังคงเลี้ยงตัวในฝั่งของการรอรีบาวด์กลับ ซึ่งช่วงนี้ยังมีปัจจัยกดดันจากการขายปรับพอร์ตของกองทุนในประเทศ สอดรับกับสู่ช่วงรายงานผลประกอบการ แต่ทั้งนี้ถ้าหากดัชนีหลุด 1,600 จุด แนวรับที่สำคัญต่อมาคือ 1,550 จุด
สำหรับการลงทุนระยะสั้น แนะนำเล่นหุ้นที่ผลประกอบการไตรมาส 3/2564 คาดว่าจะออกมาดี ได้แก่ ASK, JMT, COM7 และ NER ส่วนการลงทุนระยะยาว แนะนำหุ้นในกลุ่มเปิดเมือง ที่งบไตรมาส 4/2564 คาดว่าจะฟื้นตัว โดยใช้จังหวะราคาหุ้นย่อตัวหลังรายงานงบไตรมาส 3 เป็นโอกาสเข้าซื้อ ได้แก่ AOT, BEM และTU
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
HENG ปิดที่ 2.86 บาท +0.91 หรือ +46.67% มูลค่าการซื้อขาย 6,852.13 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 141.00 บาท -4.00 หรือ -2.76% มูลค่าการซื้อขาย 6,247.39 ล้านบาท
SCC ปิดที่ 393.00 บาท -9.00 หรือ -2.24% มูลค่าการซื้อขาย 3,178.09 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 66.00 บาท -1.00 หรือ -1.49% มูลค่าการซื้อขาย 2,696.84 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 12.70 บาท -0.30 หรือ -2.31% มูลค่าการซื้อขาย 2,360.59 ล้านบาท