EP ทุ่มกว่า 1.88 พันลบ. ซื้อหุ้นแทคเอ็นเนอร์ยี 47.60%

HoonSmart.com>> อีสเทอร์น พาวเวอร์ฯ ส่ง E-COGEN บริษัทลูกเข้าซื้อหุ้น “แทคเอ็นเนอร์ยี” สัดส่วน 47.60% มูลค่ากว่า 1,885 ล้านบาท ขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ระบบพลังงานความร้อนร่วม

บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2564 มีมติอนุมัติให้บริษัท อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชัน จำกัด (E-COGEN) ซื้อหุ้นสามัญของบริษัท แทคเอ็นเนอร์ยี จำกัด (TAC) จํานวน 9,472,400 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วน 47.60% ของจํานวนหุ้นทั้งหมดที่ชําระแล้วของ TAC จาก บริษัท ชูบุอีเล็คทริค เพาเวอร์ไทยแลนด์เอสพีพีบี.วี. จํากัด (CHUBU) ในราคาหุ้นละ 199 บาท เป็นจํานวนเงินทั้งสิ้น 1,885 ล้านบาท

ทั้งนี้ TAC ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนร่วม โดย TAC ถือหุ้นในบริษัท พีพีทีซี จำกัด (PPTC) จำนวน 7.42 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 50% ของทุนจดทะเบียนที่มีการชำระแล้ว และถือหุ้นใน บริษัท เอสเอสยูที จำกัด (SSUT) จำนวน 11.67 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 40%

ภายหลังการเข้าทำรายการ บริษัทฯ จะมีสัดส่วนการถือหุ้นโดยตรงและโดยอ้อมในบริษัท พีพีทีซี จำกัด (PPTC) และบริษัท เอสเอสยูที จำกัด (SSUT) ผ่าน E-COGEN ดังนี้ (1) ถือหุ้นใน PPTC โดยถือทางอ้อมผ่าน TAC ในสัดส่วน 50.00% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว และถือโดยตรง 24.50% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว รวมเป็นการถือหุ้นใน PPTC ทั้งสิ้น 74.50% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว

(2) ถือหุ้นใน SSUT โดยถืออ้อมผ่าน TAC ในสัดส่วน 40.00% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว ถือโดยอ้อมผ่านบริษัท ทัศน์ศิริ จำกัด (THAT SIRI) 20.00% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วและถือโดยตรง 40.00% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว รวมถือหุ้นใน SSUT ทั้งสิ้น 100.00% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว

สำหรับผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทฯ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ระบบพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) คือ PPTC และ SSUT โดยบริษัทฯ จะมีอำนาจควบคุมใน TAC เพิ่มขึ้นเป็น 100% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว ทำให้มีอำนาจในการบริหารจัดการทั้งหมดใน SSUT และมีสัดส่วนการถือหุ้นใน PPTC เพิ่มขึ้นเป็น 74.50% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว

นอกจากนี้เป็นการขยายการลงทุนในธุรกิจเดิมที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อยู่แล้ว ซึ่งบริษัทจะมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อส่งเสริมให้บริษัทฯ มีกำไรมั่นคงและต่อเนื่องในอนาคต

สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ซื้อหุ้น บริษัทและบริษัทย่อยได้รับอนุมัติสินเชื่อระยะสั้นจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่งเรียบร้อยแล้ว โดยในเบื้องต้นจะเป็นสินเชื่อระยะสั้น ทั้งนี้บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาขอรับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เพื่อปรับขยายเป็นสินเชื่อระยะยาว รวมทั้งการพิจารณาออกหุ้นกู้
เพิ่มเติม และหรือการเพิ่มทุนจาก General Mandate โดยในอนาคต หากมีนักลงทุนหรือผู้ประกอบการรายอื่น สนใจที่จะร่วมทุนในกิจการดังกล่าว ในราคาที่เหมาะสม บริษัทฯอาจจะพิจารณาขายเงินลงทุนใน 2 บริษัทดังกล่าว เพื่อนำเงินสดที่ได้ไปลงทุนในโครงการอื่นต่อไป