HoonSmart.com>> “เบริล 8 พลัส” ผู้ให้บริการ Digital Transformation แบบครบวงจร จ่อเสนอขายหุ้น IPO ครึ่งแรกของเดือน พ.ย.นี้ ระดมทุนขยายธุรกิจไปต่างประเทศ-พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ-ร่วมกับพันธมิตร-เงินหมุนเวียน จ่อเปิดตลาดใหม่ที่สิงคโปร์ภายในปีนี้
น.ส.สุธางค์ คนศิลป กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และตัวแทนผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มเสนอขายแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัท เบริล 8 พลัส (BE8) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่งเรียบร้อยแล้ว BE8 เตรียมเสนอขาย 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ปั คาดว่าจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น และเข้าจดทะเบียนกับซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงครึ่งแรกของเดือน พ.ย.2564
“BE8 อยู่ใน Mega Trend มีโอกาสเติบโตสูง มีพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในด้านการให้บริการ Digital Transformation แบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ มีพันธมิตรนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลก พร้อมกับนำความเชี่ยวชาญ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งนำเสนอการบริการที่ตอบโจทย์กลยุทธ์ธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนการมุ่งมั่นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ใหม่ของตนเองสนับสนุนให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในธุรกิจ ผลักดันเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งใน และต่างประเทศ” น.ส.สุธางค์ กล่าว
ด้านนายอภิเษก เทวินทรภักติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบริล 8 พลัส (BE8) เปิดเผยว่า บริษัทฯจะนำเงินไปใช้ขยายธุรกิจในต่างประเทศ, ใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ, ใช้ลงทุนร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ช่วยสนับสนุนการบริการ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
การขยายตลาดต่างประเทศมุ่งไปสู่กลุ่มประเทศในภูมิภาค โดยจะเริ่มรุกทำตลาดเวียดนามก่อน เพื่อรองรับโอกาสของตลาดซอฟต์แวร์ในช่วง 4 ปีนี้ (2564-2567) ที่คาดว่ามีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 13% ต่อปี ซึ่งภายในปี 2564 จะสามารถเปิดตลาดใหม่ที่ประเทศสิงคโปร์ได้แล้วเสร็จ
“เรามีแผนที่จะขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาคอาเซียน และสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจที่เป็นรายได้ประจำ จากปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่ 50% ของรายได้รวม ” นายอภิเษก กล่าว
ส่วนรายได้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 178.81 ล้านบาท เติบโต 10.23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 39.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.48 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีการตั้งประมาณการค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงมาอยู่ที่ 2.11 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 6 เดือนแรกปีก่อนหน้าที่ตั้งไว้อยู่ที่ 38.22 ล้านบาท ส่วนในช่วงปี 2561-2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย และให้บริการอยู่ที่ 211.57 ล้านบาท 311.49 ล้านบาท และ 312.54 ล้านบาท ตามลำดับ เติบโตเฉลี่ยต่อปี 21.57% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 32.99 ล้านบาท 64.26 ล้านบาท และ 23.64 ล้านบาท ตามลำดับ