ACE เบอร์ 1 โรงไฟฟ้าชีวมวล-ชีวภาพ แชมป์ขายไฟชุมชน 50 MW เปิดโอกาสโตไกล

HoonSmart.com>>บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE บริษัทแถวหน้าของธุรกิจโรงไฟฟ้า “ชีวมวล” และ “ก๊าซชีวภาพ” ในประเทศไทย แสดงศักยภาพสร้างผลงานที่โดดเด่นจากการเป็นแชมป์ของโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) ซึ่งผ่านการคัดเลือกด้านเทคนิคมากที่สุดถึง 29 โครงการ จากบริษัทย่อย 29 แห่งเข้ารอบทั้งหมด และยังชนะด้านราคามากที่สุดถึง 18 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวม 59.00 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตเสนอขายรวม 50.00 เมกะวัตต์ ซึ่งยากที่บริษัทใดจะลอกเลียนแบบได้ เพราะเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน) ทั้งหมด 18 โครงการ กวาดกำลังการผลิตเกือบ 67% ของการรับซื้อไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพทั้งหมด 75 เมกะวัตต์ที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) กำหนด

ชูจุดเด่นมากกว่าราคา
การแข่งขันด้านราคารอบนี้ดุเดือดมาก ทำให้บริษัทขนาดใหญ่ตกรอบ โดยมีบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกจำนวนทั้งสิ้น 43 ราย เสนอขายไฟฟ้ารวม 149.50 เมกะวัตต์ ราคาเฉลี่ย 3.1831 บาทต่อหน่วย แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลจำนวน 16 ราย เสนอขายรวม 75.00 เมกะวัตต์ ราคาเฉลี่ย 2.7972 บาทต่อหน่วย และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพรวม 27 ราย เสนอขายรวม 74.50 เมกะวัตต์ ราคาเฉลี่ย 3.5717 บาทต่อหน่วย

โรงไฟฟ้าชุมชนของ ACE ได้รับเลือกจำนวน 18 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย กำแพงเพชร บุรีรัมย์ ราชบุรี ซึ่งนอกจาก “ราคา” ที่เสนออยู่ภายในกรอบที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำหนด คาดว่าจุดเด่นที่ทำให้ ACE ได้รับความไว้วางใจ คือ ผลประโยชน์ที่เสนอให้กับชุมชนเพื่อสร้างความยั่งยืนแบบ 360 องศา 5 ด้าน ซึ่งมากกว่าเกณฑ์ที่ กกพ. กำหนด ได้แก่ 1.นวัตกรรมเทคโนโลยีการเกษตรแบบครบวงจรที่คาดเกิดประโยชน์กับชุมชนมากที่สุด อาทิ แอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ติดตามแปลงปลูก, Crop monitoring system, การจัดตั้งศูนย์บริการเครื่องจักรกลการเกษตร, บริการข่าวสารเทคโนโลยีเกษตรทั่วโลก และเครือข่ายแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างเกษตรกรในพื้นที่ 2.ด้านสาธารณสุขและสาธารณูปโภค อาทิ ตรวจสุขภาพชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ปรับปรุงถนน 3.การศึกษา อาทิ มอบทุนการศึกษา จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ปลูกพืชพลังงาน 4.ด้านอาชีพ อาทิ จัดหากล้าพันธุ์ให้เกษตรกรเพาะปลูก 5. ด้านวัฒนธรรม อาทิ สนับสนุนเงินจัดกิจกรรม ซ่อมแซมบูรณะวัด โบราณสถานท้องถิ่น

7 จุดแข็ง
ความสำเร็จของ ACE ในวันนี้ เกิดจากการศึกษาเรื่องโรงไฟฟ้า “ชีวภาพ” อย่างจริงจังมากว่า 7 ปี ทั้งมีความพร้อมด้านวัตถุดิบเชื้อเพลิงที่ถือเป็นหัวใจสำคัญ และความเชี่ยวชาญของ ACE ได้แก่ 1.การมีเครือข่ายเกษตรกรและชุมชนที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ความสัมพันธ์ที่บ่มเพาะกันมายาวนานกว่า 40 ปี จึงให้การตอบรับเป็นอย่างดี และให้การส่งเสริมเกษตรกรแบบครบวงจร 2.ความพร้อมและประสบการณ์ด้านการวิจัยพัฒนาและเพาะพันธุ์พืชระดับโลก 3.ความพร้อมและความเชี่ยวชาญในการส่งเสริมเกษตรกรให้ปลูกพืชพลังงาน 4.ความเชี่ยวชาญในการใช้เชื้อเพลิงจากพืชและวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร 5.ความพร้อมด้านบุคลากร 6.ความพร้อมด้านแหล่งเงินทุน 7.ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการ ตั้งแต่การออกแบบ การคัดเลือก เทคโนโลยี เครื่องจักร และซัพพลายเออร์ รวมทั้งการก่อสร้างจนแล้วเสร็จขายไฟได้ภายใน 1 ปี ทำให้มั่นใจในประสิทธิภาพในการดำเนินโรงไฟฟ้าชีวภาพมาก

เปิดโอกาสกว้างยิ่งขึ้น

การคว้าชัยชนะในการเสนอขายโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) กำลังผลิตเสนอขายรวม 50.00 เมกะวัตต์ ด้วยจุดแข็งด้านเทคนิค และความแข็งแรงของเครือข่ายวัตถุดิบ จะเปิดโอกาสให้ ACE ได้งานใหม่ๆอีกมากในอนาคต โดยยังคงมองหาโอกาสจากการประมูลต่างๆ ของภาครัฐ และมองหาดีลซื้อกิจการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ รวมถึงโครงการลงทุนในต่างประเทศตามเมกะเทรนด์มุ่งเน้นด้านพลังงานสะอาดเป็นสำคัญ ซึ่งปัจจุบันกำลังศึกษาความเป็นไปได้อยู่ในแถบเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น เวียดนาม เกาหลีใต้ รวมถึงออสเตรเลีย เพื่อต่อยอดโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) จำนวน 22 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 247.67 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 15 โครงการ จำนวน 201.90 เมกะวัตต์ รวมเป็นกำลังการผลิตติดตั้ง 449.57 เมกะวัตต์ สานต่อเป้าหมายเพิ่มกำลังผลิตกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567

บล.กสิกรไทยเพิ่มกำไร-ราคาหุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทยมองบวกต่อหุ้น ACE ชนะการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 18 โครงการ ส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 13% มาอยู่ที่ 527 เมกะวัตต์ และเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2567/68 ขึ้น 3% / 6% เพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 4.12 บาทจาก 3.96 บาท ขณะที่ บล.ไทยพาณิชย์ ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 5 บาทต่อหุ้น

เชียร์! ยืนหนึ่งผลงานเจ๋งสุด
นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส เชื่อฝีมือ ACE ยืนหยัดเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของประเทศไทยในด้านกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าชีวมวล ก๊าซชีวภาพ และโซลาร์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2564 – 2566