โนมูระฯ คาดกนง.หั่นดอกเบี้ย 0.25% หนุนหุ้น Consumer Finance-ส่งออก

HoonSmart.com>> บล.โนมูระฯ ยก 6 เหตุผลคาดกนง.ประชุม 29 ก.ย.นี้ ลดอกเบี้ยลง 0.25% เซอร์ไพรส์ตลาด กดหุ้นกลุ่มแบงก์พักฐานระยะสั้น แนะรอซื้อเมื่ออ่อนตัว SCB-KBANK-BBL ด้าน TISCO ได้ผลบวกมากสุด มองกลุ่ม Consumer Finance ฟื้นตัว ชี้ MTC-TIDLOR-JMT-SINGER เด่น ด้านเงินบาทอ่อนหนุนกลุ่มส่งออกแนะ KCE-HANA-TU-ASIAN กรณีคงดอกเบี้ย 0.5% มองกลุ่มแบงก์ประคองตลาดต่อ

บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน คาดว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 29 ก.ย.นี้ จะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% สู่ระดับ 0.25% ซึ่งโนมูระฯ เป็น 1 ใน 3 มุมมองจะที่เกิด Surprise ดอกเบี้ย จากจำนวนนักเศรษฐศาสตร์ 19 ใน 22 รายประเมินดอกเบี้ยนโยบายไทย จะคงที่ 0.5%

บล.โนมูระฯ เผย 6 เหตุผลที่กนง.จะลดดอกเบี้ย ประกอบด้วย 1) การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังอ่อนแอ โดยเฉพาะอุปสงค์ในประเทศ 2) ธปท. ยังมีช่องให้ลดดอกเบี้ยได้ Nomura คาดว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ยังไม่ใช่ระดับต่ำสุดที่ยังรักษาประสิทธิภาพของนโยยายการเงิน (effective lower bound (ELB) โดย ธปท เคยระบุว่า อัตราค่าธรรมเนียมที่ 0.23% ของกองทุน FIDF (Financial Institution Development Fund) นั้นไม่ควรมองว่าเป็น ELB (FIDF) Nomura คิดว่า ELB ของ ธปท.น่าจะอยู่ที่ 0.00-0.25%

3) เงินเฟ้อกลับมาอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายอย่างรวดเร็ว : เงินเฟ้อทั่วไปเดือน ส.ค. อ่อนลงเหลือ -0.02%y-o-y จาก 0.45% ในเดือน ก.ค. และเงินเฟ้อพื่นฐาน เพิ่มแค่ 0.1%y-o-y ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 1.2% ในช่วง 2010-19 อยู่มาก สะท้อนว่าแรงกดดันเงินเฟ้อจากอุปสงค์จำกัดมาก และReal Returnเป็นบวก(ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่แท้จริงยังเป็นบวกมาก จากเงินเฟ้อติดลบ)

4) ธปท.ไม่ได้กังวลมากนักเรื่องค่าเงินบาทที่อ่อนลง เนื่องจากการอ่อนค่าเกิดจากคาดการณ์การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด Nomura คาด -2.1%ของ GDP 5) การเพิ่มเพดานหนี้ภาครัฐไม่ได้หมายความว่าจะมีการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นในระยะสั้น ในภาวะที่อุปสงค์ในประเทศยังอ่อนตัว และ 6) มติคงดอกเบี้ยทีไม่เป็นเอกฉันท์ในการประชุมเดือนส.ค สะท้อนสัญญาณเรื่องการลดดอกเบี้ย

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แบ่งเป็น 2 กรณี 1) กรณีลดดอกเบี้ย 0.25% ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าเร่งตัว รับคาดการณ์นโยบายการเงินมี Downside ผลกระทบต่อตลาด

กลุ่มธนาคาร จะพักฐานระยะสั้นในวันนี้ และพรุ่งนี้ กรณีลดดอกเบี้ย Surprise ตลาด กลุ่มธนาคารจะมีแรงกดเพิ่มเติมรับ Downside การปรับสมมติฐานลงจากส่วนต่างดอกเบี้ยรับสุทธิ(NIM) ที่แคบลง โดยธนาคารใหญ่ Downside กำไรสุทธิราว 12-18% แต่ชดเชยได้ด้วยการขยายระยะเวลาลดเงิน FIDF ดังนั้น ให้เน้นอ่อนตัวซื้อ BANK เพื่อระยะยาว เนื่องจากเป็นจุดสิ้นสุดดอกเบี้ยขาลง SCB, KBANK, BBL น่าสนใจตั้งรับ ขณะที่ TISCO เป็น Hire-purchase ที่ได้ผลบวกมากสุด

กลุ่ม Consumer Finance จะฟื้นตัว จากภาพบวกต่อ Cost of Fund โดยแบ่งเป็นสินเชื่อรถบรรทุก บวกต่อ THANI มากสุด 0.61-1.42% รองลงมาเป็น MICRO +0.45%-1.39% ส่วนกลุ่มจำนำทะเบียนบวก TIDLOR มากสุด 0.39%-0.69% รองลงมา MTC 0.3%-0.67% ขณะที่ความเสี่ยงด้านการแข่งขันจากการปรับโครงสร้างของธนาคารจะกระทบฐานกำไรกลุ่นปีที่ 3 เป็นต้นไป ดังนั้น ช่วง 2 วันที่ผ่านมาตลาดซึมรับเรื่องนี้ไปแล้ว เน้น MTC, TIDLOR, JMT, SINGER เด่น

ส่วนกลุ่มส่งออกจะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อาจอ่อนค่าเร่งตัว ถึง 34.5 บาทต่อเหรียญฯ ในระดับเดือน หุ้น KCE, HANA, TU, ASIAN เด่น

2) กรณี คงดอกเบี้ย 0.5% กลุ่มธนาคารจะประคองตลาดต่อ จากวงจรดอกเบี้ยขาลงสิ้นสุดเช่นกัน เน้น SCB, KBANK, BBL ส่วนกลุ่ม Consumer Finance จะค่อยๆ ฟื้นตาม เน้น TIDLOR, JMT, SINGER ขณะที่ค่าเงินบาทจะค่อยๆ zigzag อ่อนค่าขึ้น 34-34.25 บาทต่อเหรียญฯ บวกต่อ TU, KCE