ธปท.เตรียมออกมาตรการรวมหนี้กลางเดือนต.ค.ลดภาระลูกหนี้

HoonSmart.com>>ธปท.เดินหน้าลดภาระดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ กลางเดือนต.ค. ออกมาตรการจูงใจรวมหนี้ที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันเข้าด้วยกัน ขณะที่ช่วยลูกหนี้จากพิษโควิดแล้ว 3.35 ล้านล้านบาท

น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า กลางเดือน ต.ค. 2564 นี้ ธปท.เตรียมออกมาตรการสนับสนุนการรวมหนี้สินเชื่อไม่มีหลักประกันกับสินเชื่อที่มีหลักประกันเข้าด้วยกัน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กับประชาชน โดยดอกเบี้ยที่ลดลงอาจสูงถึง 15% ซึ่งสะท้อนจากเพดานหนี้บัตรเครดิตปัจจุบันอยู่ที่ 16%, สินเชื่อบุคคล 25% ,สินเชื่อจำนำทะเบียน 24% และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ 33% ดังนั้นเมื่อรวมหนี้เข้าด้วยกันแล้วอัตราดอกเบี้ยที่ถูกเรียกเก็บใหม่ที่มีหลักประกันจะทำให้ลดลงเหลือไม่เกิน 10%

ส่วนความคืบหน้าของมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ณ สิ้นเดือน ก.ค. 64 มีลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือภายใต้มาตรการทั้งสิ้น 5.12 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้ 3.35 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น ลูกหนี้ของสถาบันการเงินและ non-banks 2 ล้านบัญชี ยอดหนี้ 2.1 ล้านล้านบาท และลูกหนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs) 3.12 ล้านบัญชี ยอดหนี้ 1.25 ล้านล้านบาท เมื่อรวมลูกหนี้ของสถาบันการเงินและ non-banks ที่เข้ามาตรการเร่งด่วนพักชำระหนี้ คิดเป็นมากกว่า 3 ล้านบัญชี

สำหรับสินเชื่อฟื้นฟู ธปท. ได้อนุมัติวงเงินไปแล้ว 106,156 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมาย 1 แสนล้านบาทและเร็วกว่าที่กำหนดไว้ในสิ้นเดือน ต.ค.2564 โดยลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือ 34,538 ราย เฉลี่ยรายละ 3.07 ล้านบาท และเป็นธุรกิจSMEs และธุรกิจขนาดเล็ก 44.3% , ธุรกิจพาณิชย์และบริการ 67.2% และเป็นลูกหนี้ที่อยู่ต่างจังหวัด 68.4%

ขณะที่โครงการพักทรัพย์พักหนี้ มูลค่าสินทรัพย์ที่รับโอนมีจำนวน 15,167 ล้านบาท ผู้ได้รับความช่วยเหลือ 106 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม โรงงาน และสปา ซึ่งธุรกิจโรงแรมและที่พัก มีลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ ไทยที่ได้รับความช่วยเหลือภายใต้มาตรการ 2.83 แสนล้านบาท คิดเป็น 65%ของสินเชื่อรวมที่ธนาคารให้กับธุรกิจโรงแรม โดย 61% ได้เข้ามาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ส่วนอีก 34% เข้าการช่วยเหลืออื่น เช่น พักชำระหนี้ หรือลดภาระหนี้ระยะสั้น และ 5% เข้าโครงการพักทรัพย์พักหนี้

“วงเงินสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ไทยที่ปล่อยให้กับธุรกิจโรงแรมและที่พัก ในสิ้นเดือนก.ค. มีวงเงิน 4.39 แสนล้านบาท และธนาคารได้ให้สินเชื่อใหม่เพื่อเสริมสภาพคล่องไปแล้วกว่า 18,000 ล้านบาท ”น.ส.สุวรรณี กล่าว

ในระยะต่อไป ธปท.จะยังผลักดันการดำเนินมาตรการและติดตามการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มาตรการที่ออกมีผลในวงกว้าง ในขณะเดียวกัน ธปท. ยังมีแนวทางเพิ่มเติมเพื่อเสริมประสิทธิภาพของมาตรการต่าง ๆ โดยมีหลักคิด ได้แก่
(1) “ไปให้ถึง” โดยเพิ่มการประสานงานเชิงรุกกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการประชาสัมพันธ์มาตรการแก่ลูกหนี้ ตลอดจนรับฟังปัญหาและให้คำปรึกษาในเชิงรุก เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและประสิทธิภาพของมาตรการ
(2) “ช่วยให้มากที่สุด” ผ่านการออกมาตรการเพิ่มเติมต่อเนื่องตามสถานการณ์ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบให้ได้มากที่สุด
(3 “ระบบการเงินเดินต่อไปได้” โดยภายใต้ภาวะที่ความเสี่ยงยังอยู่ในระดับสูง จะต้องเน้นการเลือกใช้มาตรการที่ตรงจุด และไม่ส่งผลกระทบเชิงลบหรือผลข้างเคียงต่อระบบการเงิน เพื่อให้ระบบการเงินและระบบสถาบันการเงินยังทำงานได้ตามปกติและหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจให้ไปต่อได้