6 บริษัทในกลุ่มปตท.นัดเปิดข้อมูลให้นักลงทุน คาดกำไรปีนี้ไปได้สวย หาโอกาสเพิ่มมูลค่ากิจการ ปตท.เสนอบอร์ดส่งธุรกิจถ่านหินอินโดนีเซียเข้าตลาดหุ้น PTTEP มีเงินสด 3.4 พันล้านดอลลาร์ หาซื้อธุรกิจเอเชีย PTTGC เทงบลงทุนปีนี้ 800 ล้านดอลลาร์ TOP ทำใจปีนี้ค่าการกลั่นลด ลุ้นกำไรสต๊อกมาช่วย GPSC เตรียม COD โรงไฟฟ้า 3 แห่งปีหน้า GGC หวังตามวัตถุดิบล่องหนพบ พลิกมีกำไรปี 2562
PTT เสนอบอร์ดธ.ค.ส่งบริษัทถ่านหินอินโดฯเข้าตลาดหุ้น
นายพิจิน อภิวันทนาพร ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท.(PTT) คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทคาดว่าจะทรงตัวหรืออาจปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากไตรมาส 3 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC)จะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงแยกก๊าซและโรงโอเลฟินส์ และโครงการ UHV ของ บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) จะปิดซ่อมบำรุงระยะเวลา 15 วัน ขณะที่ปี 2560 มีกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุน
ขณะเดียวกัน ปตท.มองหาโอกาสเพิ่มมูลค่ากิจการ บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำแผน เพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท(บอร์ด)ในเดือนธ.ค.นี้ อนุมัติการนำธุรกิจถ่านหินที่ประเทศอินโดนีเซียเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอินโดนีเซีย
ปัจจุบันบริษัทถือหุ้นในธุรกิจเหมืองถ่านหินดังกล่าวเกือบทั้ง 100% มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 8 ล้านตันต่อปี
งบลงทุนตามแผน 5 ปี บริษัทยังคงกรอบวงเงินไว้จำนวน 240,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อหาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่
สำหรับการเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนั้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างการศึกษาด้านความพร้อมในการเข้าลงทุน และศึกษาหาพันธมิตรในการเข้าร่วมประมูล
PTTEP มีเงิน 3,400 ล้านดอลลาร์ หาแหล่งลงทุน
นายยงยศ ครองพาณิชย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) คาดว่ายอดขายในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 3.1 แสนบาร์เรล/วัน ส่วนไตรมาส 3 จะอยู่ที่ 3.08 แสนบาร์เรล/วัน ส่วนราคาก๊าซปีนี้คาดว่าจะอยู่ประมาณ 6.5 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู โดยมีต้นทุนต่อหน่วยที่ 30-31 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และคาดว่าอัตรากำไรก่อนหักภาษี, ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาจะอยู่ที่ 70-75%
ปัจจุบัน บริษัทมีกระแสเงินสดประมาณ 3,400 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 112,200 ล้านบาทมองหาการซื้อกิจการเกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เน้นการลงทุนที่มีขนาดราว 500-1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมเข้าประมูลปิโตรเลียมแหล่งบงกชและแหล่งเอราวัณที่ใกล้จะหมดอายุสัมปทาน
นายยงยศ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมองโอกาสในการขยายธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิม เช่น ธุรกิจรื้อถอนโครงสร้างในแหล่งสำรวจปิโตรเลียม เพราะในภูมิภาคเอเชียยังไม่มี โดยเฉพาะในประเทศไทยที่จะต้องมีการรื้อถอนโครงสร้างบางส่วนตามเงื่อนไขของสัมปทานในอีก 4-5 ปีข้างหน้า รวมถึงการลงทุนในธุรกิจใหม่ อาทิ ธุรกิจแบตเตอรี่สำหรับพลังงานทางเลือก และธุรกิจนำก๊าซเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ซึ่งเบื้องต้นสนใจลงทุนในเมียนมา
PTTGC แย้มครึ่งปีหลังใกล้ครึ่งปีแรกกำไร 23,215 ล้านบาท
นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ผู้จัดการฝ่ายหน่วยงานการเงินองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) คาดแนวโน้มผลงานครึ่งปีหลัง น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก เนื่องจากสามารถใช้กำลังการผลิตได้เต็มประสิทธิภาพในทุกหน่วยธุรกิจ และมาร์จิ้นของธุรกิจโอเลฟินส์ยังยืนอยู่ในระดับสูง ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ขึ้นมาอยู่ที่ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ 6 เดือนแรกปี 2561 บริษัทมีกำไรสุทธิ 23,215 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 3,431 ล้านบาทเติบโตประมาณ 17% จากระยะเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 19,784 ล้านบาท
ส่วนงบลงทุนปีนี้จำนวน 700-800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ใช้ซื้อหุ้นในบริษัท Siam Mitsui PTA Company Limited (SMPC) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์กรดบริสุทธิ์เทเรพาธิค (PTA) ในสัดส่วน 74% และ Thai PET Resin Company Limited (TPRC) ผู้ประกอบการในธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET) ในสัดส่วน 74% จากบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ เงินลงทุนจำนวน 125 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4,148 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 74% และทาง Mitsui ถือหุ้นอยู่ที่ 26% คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ในไตรมาส 4/2561 หรือต้นปี 62
บริษัทจะใช้เงินลงทุนในโรงงานโอเลฟินส์แห่งใหม่ โดยใช้แนฟทาและก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เป็นวัตถุดิบหลัก รวมถึงอยู่ระหว่างศึกษาร่วมลงทุนกับพันธมิตรในประเทศญี่ปุ่นในธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ
ด้านโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯ ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างศึกษา คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในต้นปี 2562 หากผู้รับเหมาเสนอราคาสูงเกินไปบริษัทก็อาจจะไม่ลงทุน
TOP ยอมรับสภาพค่าการกลั่นลดลง
นายชัชชัย สิริวิชช์ ผู้จัดการ-นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า บริษัทลุ้นผลประกอบการปีนี้จะใกล้เคียงหรือต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากคาดว่าค่าการกลั่น (GRM) จะอยู่ที่ 5-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ต่ำกว่าปีก่อนที่ 6.7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่หากราคาน้ำมันสูงขึ้นกว่านี้อาจทำให้บริษัทมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันเข้ามาช่วยทำให้ผลประกอบการใกล้เคียงกับปีก่อน คาดราคาน้ำมันในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะอยู่ในกรอบ 75-80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
” บริษัททำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2560 ด้วยภาพรวมต่างๆ ดีมากๆไม่ว่าจะเป็นต้นทุนน้ำมันที่นำเข้าโรงกลั่นที่ต่ำทำให้ค่าการกลั่นสูง และมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันจำนวนมาก ซึ่งปีนี้ต้นทุนน้ำมันสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าการกลั่นต่ำลง และแม้ว่าจะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน แต่ยังต่ำกว่าปีก่อน “นายชัชชัย กล่าว
บริษัทเตรียมเสนอให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/61 ในวันที่ 27 ส.ค.พิจารณาอนุมัติการเข้าลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดหรือ โครงการ CFP มูลค่าการลงทุนประมาณ 4,825 ล้านเหรียญสหรัฐ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ถือหุ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต จะส่งผลให้ค่าการกลั่น (GRM) สูงขึ้นจากปัจจุบันถึง 1 เท่าตัว และจะช่วยให้บริษัทฯมีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้นปีละ 500-600 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 เพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันเป็น 4 แสนบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.75 แสนบาร์เรล/วันปี 2566 เป็นต้นไป
GGC หวังปีหน้าพลิกมีกำไรจากตามวัตถุดิบคืน
นายเสกสรร อาตมางกูร กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) เปิดเผยว่า คาดว่าบริษัทจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิภายในปี 2562 จากเร่งติดตามค่าเสียหายจากวัตถุดิบคงคลังสูญหาย ส่วนไตรมาส 3/2561 จะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า เพราะไตรมาส 2 มีการบันทึกรายการพิเศษจากความเสียหายจากวัตถุดิบคงคลังจำนวน 2,004 ล้านบาท ขณะที่เตรียมเปิดโรงงานเมทิลเอสเทอร์ (ไบโอดีเซล) แห่งที่ 2 ในปลายเดือนส.ค.นี้ ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง
ส่วนรายได้ในปีนี้มีโอกาสที่จะทำได้สูงกว่า 19,472 ล้านบาทในปีที่แล้ว จากการผลิตไบโอดีเซลที่เพิ่มขึ้น โดยปีนี้มีเป้าหมายการผลิตที่ระดับ 3.6 แสนตัน จากระดับ 3.2 แสนตันในปีที่แล้ว และมีโอกาสที่จะผลิตได้ถึงระดับ 4 แสนตัน ส่วนราคาจำหน่ายแม้ว่าอาจจะลดลงบ้าง แต่ก็ยังมีลุ้นว่าราคาจะปรับตัวขึ้นมาได้ในช่วงไตรมาส 4
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ภากร” ลุ้นเศรษฐกิจโต หนุนกำไร บจ. ครึ่งปีหลังดีขึ้น-ครึ่งปีแรกโต 7.61%