HoonSmart.com>> “เน็คซ์ แคปปิตอล” คาดรายได้ปี 2564 โต 15% พอร์ตสินเชื่อรวมโต 20% แตะระดับ 4.7-4.8 พันล้านบาท วางกลยุทธ์ขยายตลาด นำเทคโนโลยีสร้างการเติบโต เดินหน้าคุม NPL ไม่เกิน 2% ส่วนปี 2565 ร่วมมือ COM7-SYNEX ปล่อยสินเชื่อ ณ จุดขาย สร้าง Ecosystem รุกตลาดใหญ่ ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล (NCAP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2564 เติบโตไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อนอยู่ที่ 1,141.40 ล้านบาท การเติบโตหลักมาจากการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งภาพรวมคาดว่าพอร์ตสินเชื่อจะเติบโต 20% อยู่ที่ระดับ 4,700-4,800 ล้านบาท จากสิ้นไตรมาส 2 อยู่ที่ 4,296.80 ล้านบาท
บริษัทมีกลยุทธ์ที่จะขยายการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานบนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ไม่ใช้การขยายสาขา แต่ใช้เทคโนโลยีในการขับเคลื่อน หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นปัจจัยเร่งให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปสู่รูปแบบดิจิทัลมากขึ้น อีกทั้งทำให้ต้นทุนในการขยายธุรกิจต่ำลง และการนำ AI มาช่วยสนับสนุนการอนุมัติการปล่อยสินเชื่อได้รวดเร็วกว่าปกติ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าที่ดี
นอกจากนี้การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามหนี้ สะท้อนจากภาพรวมหนี้สงสัยจะสูญ (NPLs) ในไตรมาส 2/2564 อยู่ในระดับต่ำที่ 1.4% โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะพยายามควบคุมไม่ให้เกิน 2% ส่วนการซื้อหนี้เข้าบริหารเอง บริษัทกำลังอยู่ระหว่างศึกษาเชิงลึกให้ครบถ้วนก่อน จากปัจจุบันมีใบอนุญาตรองรับ และมีความชำนาญในการติดตามหนี้อยู่แล้ว
ส่วนความร่วมมือกับบริษัท คอมเซเว่น (COM7) และบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) หรือ SYNEX ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ใน 2565 คาดว่าจะได้เห็นความร่วมมือเกิดขึ้น บริษัทจะเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อ ณ จุดขาย โดยใช้จุดแข็งของ COM7 ที่มีจุดขายมากกว่า 1,000 จุด และ SYNEX ที่มีคู่ค้ามากกว่า 4,000 ราย ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวถือว่าเป็น Ecosystem ที่ดี ที่บริษัทสามารถเข้าไปร่วมเพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันได้
นอกจากนี้ในปี 2565 บริษัทมีแผนขยายไปยังธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ถึง 7 เท่า ด้วยการมุ่งเน้นสินค้าและผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มเติมที่นอกเหนือจากสินเชื่อรถจักรยานยนต์ ด้วยการเจาะกลุ่มหลักในปัจจุบัน ที่เป็นลูกค้ากลุ่มที่ใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์
“เราคิดว่าเป้าหมายในปีนี้สามารถทำได้ ปัจจุบันก็ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คาดว่าปัญญาขาดแคลนรถจักรยานยนต์จะเริ่มคลี่คลายลงมาบ้าง ส่วนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราก็มีผลกระทบบ้าง แต่ก็มุ่งเน้นการบริหารจัดการอย่างรัดกุม ทำให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโต ด้านแผนขยายไปยังธุรกิจไฟแนนซ์อื่นๆ เพิ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ ในกลุ่มลูกค้าที่มีอาชีพอิสระ ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบจากธนาคารได้ที่มีประมาณ 15 ล้านคน ทำให้เราก้าวไปสู่ตลาดที่ใหญ่กว่าเดิม ด้วยจุดมุ่งหมายในการเป็นที่พึ่งทางการเงินให้กลุ่มลูกค้าดังกล่าวได้” นายปุณณมาศ กล่าวทิ้งท้าย