หุ้นแบงก์ทหารไทยดิ่ง 3% ตกเป็นเป้าโจมตี กระแสข่าวลือลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารหนี้ในตุรกี ธนาคารปฎิเสธข่าว ยันไม่มีการลงทุน เป็นเพียงการทำธุรกิจให้สินเชื่อลูกค้าบริษัทข้ามชาติ ผ่านแบงก์ตุรกีขนาดใหญ่ติด 1 ใน 5 คิดเป็นเม็ดเงินไม่มาก จะครบชำระต.ค.นี้
หุ้นธนาคารทหารไทย(TMB) ร่วงผิดปกติตั้งแต่เช้าวันที่ 20 ส.ค. และปิดที่ 2.16 บาท ทรุดลง 3.57% มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวันจำนวน 2,912 ล้านบาท เคลื่อนไหวสวนทางหุ้นธนาคารขนาดใหญ่และตลาดหุ้นที่พุ่งแรง 9 จุด เนื่องจากมีกระแสข่าวเรื่องธนาคารได้รับความเสียหายจากการลงทุนในตุรกีและสินเชื่อในเดือนก.ค.ลดลงมากจากเดือนก่อนหน้า
ในเวลาประมาณ 18.30 น. ธนาคารทหารไทยชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ธนาคารได้รับการสอบถามจากนักลงทุนเกี่ยวกับการลงทุนในประเทศตุรกี จึงขอชี้แจงว่า ธนาคารไม่มีการลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาล หรือตราสารหนี้ของบริษัทในประเทศตุรกีแต่อย่างใด
ธนาคารทหารไทยมีการทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินเชื่อรับซื้อลดเอกสารภายใต้เลตเตอร์ออฟเครดิตสินเชื่อระยะยาว(L/C discounting) กับธนาคารในประเทศตุรกี เพื่อบริการการทำธุรกรรมการเงินทางการค้าให้กับลูกค้าของธนาคารทหารไทย
ทั้งนี้ ธนาคารตุรกีที่ธนาคารทหารไทยทำธุรกรรมด้วยนั้น เป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่อยู่ใน 5 อันดับแรกของประเทศตุรกี ขณะที่ลูกค้าของธนาคารทหารไทยเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 100% โดยบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ในส่วนของขนาดของธุรกรรม L/C discounting นั้นมีสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของเงินให้สินเชื่อของธนาคารทหารไทย ซึ่งสถานะของเงินให้สินเชื่อดังกล่าวยังคงเป็นสินเชื่อจัดชั้นปกติ และจะถึงกำหนดชำระในเดือนต.ค. 2561 นี้
ก่อนหน้านี้ ธนาคารทหารไทยรายงานงบการเงินงวดสิ้นเดือนก.ค. 2561 ว่า เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สุทธิของเดือนก.ค.อยู่ที่ 621,636 ล้านบาท ลดลงจำนวน 7,153 ล้านบาทหรือ 1.13% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 628,789 ล้านบาท
ส่วนธนาคารกรุงเทพ(BBL) เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สุทธิเดือนก.ค.อยู่ที่ 1,851,175 ล้านบาท ลดลง จำนวน 15,587 ล้านบาทหรือ 0.83% เทียบกับเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 1,866,762 ล้านบาท
ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สุทธิ 2,001,663 ล้านบาทในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นจำนวน 9,730 ล้านบาท หรือประมาณ 0.48% จากยอดเมื่อสิ้นเดือนมิ.ย.จำนวน 1,991,933 ล้านบาท
ภาวะตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ระดับ 1,701.42 จุด บวก 11.38 จุด หรือ 0.67% มูลค่าการซื้อขายรวม 44,920 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นน้อยลงเพียง 426 ล้านบาท และซื้อในตลาดล่วงหน้า 4,086 สัญญา
ตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2/2561 ขยายตัว 4.6% ดีกว่าที่คาดการณ์ และการเลือกตั้งเริ่มมีความชัดเจน รวมถึงสงครามการค้ามีทิศทางที่ผ่อนคลายขึ้น หลังจากผู้แทนสหรัฐ-จีน มีกำหนดการเจรจากัน ส่งผลให้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเพิ่มขึ้น 29.50 จุด หรือ 1.11% ปิดที่ 2,698.47 จุด และดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ทะยาน 384.61 จุด หรือ 1.41% ปิดที่ 27,598.02 จุด