HoonSmart.com>> “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” เตรียมขายโรงแรมที่สหราชอาณาจักร 4-6 แห่ง เสริมสภาพคล่อง รองรับการลงทุน มั่นใจครึ่งปีหลัง อัตราเข้าพักฟื้น โดยเฉพาะสหราชอาณาจักร-มัลดีฟส์ ส่วนไทยยังเจอพิษโควิด ลุ้นช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. รัฐเปิดรับนักท่องเที่ยว ดันรายได้ทั้งปีแตะ 4-4.5 พันล้านบาท ส่วนปี 65 คาดโตอีก 10%
น.ส.ศมิษฐา ทินนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขายโรงแรมที่มีผลประกอบการไม่ดี โดยคาดว่าในปี 2564-2565 จะขายโรงแรมที่สหราชอาณาจักร ประมาณ 4-6 โรง เพื่อเสริมสภาพคล่องและใช้เป็นลงทุนรองรับการเติบโตในอนาคต ปัจจุบันมีกระแสเงินสดประมาณ 1,698.4 ล้านบาท มีวงเงินที่สามารถเบิกได้อีก 1,005.8 ล้านบาท อีกทั้งมีอัตรา IBD/E ในระดับที่ 0.87 ยังมีโอกาสในการหาแหล่งเงินเพื่อลงทุนอยู่อีกมาก
อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเดินหน้า ทำตามแผนการบริหารให้โรงแรมแต่ละแห่งมีผลประกอบการที่ดีขึ้น และมุ่งเน้นการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงบริหารบุคลากรให้สอดคล้องกับอัตราการเข้าพักด้วย
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 คาดรายได้จะอยู่ที่ 4,000-4,500 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2562 ที่มีรายได้ 4,017.90 ล้านบาท หรือก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งในประเมินว่าในปี 2565 ถ้าสถานการณ์มีทิศทางที่ดีขึ้น คาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 10%
สำหรับธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง โรงแรมที่สหราชอาณาจักรจะมีอัตราการเข้าพักที่เพิ่มขึ้น หลังจากเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว และรัฐบาลเปิดให้มีการเดินทางระหว่างเมืองและระหว่างประเทศในยุโรปได้แล้ว คาดว่าอัตราการเข้าพักจะฟื้นขึ้นอยู่ในระดับ 60-70%
เช่นเดียวกันธุรกิจโรงแรมที่มัลดีฟส์ที่มีการฟื้นต่อเนื่อง และช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี (พ.ย.-ธ.ค.) คาดว่าจะมีอัตราการเข้าพักสูงถึง 60-75% และความสามารถทำกำไรของโรงแรมในการขายห้อง (Average Daily Rate : ADR) จะกลับมาใกล้เคียงกับก่อนเกิดเหตุการณ์โควิด-19 ส่วนโรงแรมในฟิจิและมอริเชียส คาดว่าจะมีอัตราการเข้าพักในไตรมาส 4 อยู่ที่ 30-40% โดยประเมินว่าภาครัฐจะเริ่มเปิดประเทศในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ส่วนโรงแรมในประเทศไทยคาดว่าจะค่อยฟื้นตัวดีขึ้น จากมาตรการต่างๆของภาครัฐที่ออกมาเพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ คาดว่าอัตราการเข้าพักในไตรมาส 3 จะฟื้นอยู่ที่ระดับ 15-30% และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือน พ.ย-ธ.ค. คาดว่าภาครัฐน่าจะมีการผ่อนปรนมาตรการให้สามารถรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้มากขึ้น
” คาดการณ์การฟื้นตัวในมัลดีฟส์และสหราชอาณาจักร ซึ่งพอร์ตโรงแรมของทั้งสองรวมกันอยู่ 90% ของโรงแรมทั้งหมด ค่อนข้างหลากหลายในแต่ละพื้นที่มีช่วงฤดูกาลที่แตกต่างกัน ทำให้เรามีจุดแข็ง ในอนาคตมีกลยุทธ์ที่จะทำให้เติบโตที่ดีขึ้น ทั้งจากการเสริมความแข็งแกร่งให้กับโรงแรมเดิม และการซื้อกิจการ มองหาโอกาสการลงทุนในบริเวณเอเชียแปซิฟิก ” น.ส.ศมิษฐา กล่าว