ทริสจัดเรทติ้งหุ้นกู้ JMT วงเงิน 500 ลบ. ที่ BBB

HoonSmart.com>> “ทริสเรทติ้ง” คงอันดับเครดิต “เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส” พร้อมจัดเรทติ้งหุ้นกู้ชุดใหม่วงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท ระดับ BBB เช่นเดียวกับองค์กร แนวโน้ม Stable สะท้อนสถานะบริษัทลูกหลักของ JMART เตรียมนำเงินใช้ดำเนินธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้

บริษัท ทริสเรทติ้ง ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ที่ระดับ BBB ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต Stable หรือ คงที่ พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทไถ่ถอนภายใน 2 ปีของบริษัทที่ระดับ BBB ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ดำเนินธุรกิจและใช้ชำระคืนเงินกู้เดิม

อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทลูกหลัก (Core Subsidiary) ของ บริษัท เจมาร์ท (JMART) (ได้รับอันดับเครดิต BBB/Stable จากทริสเรทติ้ง) ส่งผลให้อันดับเครดิตของบริษัทนั้นเท่ากับอันดับเครดิตของบริษัทเจมาร์ท ซึ่งเป็นไปตาม เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ ของทริสเรทติ้ง โดยบริษัทมีบทบาทที่สำคัญในธุรกิจด้านการเงินของกลุ่มซึ่งเป็นธุรกิจแกนหลักของนโยบายการดำเนินธุรกิจที่กระจายตัวของกลุ่ม บริษัทเป็นผู้สร้างกำไรสุทธิให้แก่กลุ่มมากที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทในกลุ่มเจมาร์ท ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 รายได้รวมและกำไรสุทธิของบริษัทมีสัดส่วน 28% และ 70% ของรายได้รวมและกำไรสุทธิรวมของบริษัทเจมาร์ทตามลำดับ

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยแบ่งออกเป็นรายได้จากธุรกิจรับซื้อและบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ 84% ธุรกิจติดตามเร่งรัดหนี้ 10% และธุรกิจประกัน 6% ซึ่งการเติบโตส่วนใหญ่มาจากธุรกิจรับซื้อและบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 บริษัทสามารถจัดเก็บหนี้ได้ 1,979 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และบริษัทได้ซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารโดยใช้เงินลงทุนจำนวน 3.3 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับเงินลงทุนที่ใช้ไปจำนวน 3.5 พันล้านบาทในปี 2563

ในครึ่งแรกของปี 2564 บริษัทมีมูลหนี้คงค้างของหนี้ด้อยคุณภาพอยู่ที่ 215.6 พันล้านบาทเพิ่มขึ้นจาก 207.1 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2563 ซึ่งแบ่งเป็นส่วนที่ตัดจำหน่ายต้นทุนครบแล้วจำนวน 4.95 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3 พันล้านบาทจากสิ้นปี 2563 อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทอยู่ที่ระดับ 50.4% ในครึ่งแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้นจาก 44.7% ในครึ่งแรกของปี 2563

แนวโน้มอันดับเครดิต สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งตั้งอยู่บนความคาดหมายที่บริษัทจะยังคงดำรงสถานะในการเป็นบริษัทลูกหลักของกลุ่มบริษัทเจมาร์ทและธุรกิจการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพจะยังคงเป็นส่วนที่สำคัญในกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัทต่อไป

สำหรับแนวโน้มอันดับเครดิต Stable หรือ คงที่ สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงมีสถานะเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มเจมาร์ท สถานะที่อ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญต่อกลุ่มบริษัทเจมาร์ทอาจจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในด้านลบของอันดับเครดิต