HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 382 จุด หลังเฟดรายงานประชุมเดือนก.ค. กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรลดวงเงินซื้อพันธบัตรในปีนี้ ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ราคาน้ำมันดิบลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 18 สิงหาคม 2564 ปิดที่ 34,960.69 จุด ลดลง 382.59 จุด หรือ 1.08% หลังธนาคารกลาง (เฟด) เผยแพร่รายงานการประชุมเดือนกรกฎาคม ที่ระบุว่า ที่ประชุมเริ่มหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลดซื้อพันธบัตรภายในปีนี้
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,400.27 จุด ลดลง 47.81 จุด หรือ -1.07%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่14,525.91 จุด ลดลง 130.27 จุด หรือ -0.89%
รายงานระบุว่า มองไปข้างหน้ากรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า เศรษฐกิจขยายตัวในวงกว้างตามที่คาด และพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่จะเริ่มปรับลดการซื้อพันธบัตรรายเดือนในปีนี้
รายงานระบุอีกว่า เศรษฐกิจไปบรรลุเป้าหมายด้านเงินฟ้อและการจ้างงานที่ขยายตัวใกล้ที่จะอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ตามในรายงานยังมีกรรมการบางรายเห็นว่าควรที่จะรอไปจนถึงต้นปี ถึงจะเริ่มลดการซื้อพันธบัตร
นักวิเคราะห์จาก for Capital Economics ระบุว่า แม้จำนวนกรรมการที่เห็นด้วยกับการลดการซื้อพันธบัตรเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าจะเริ่มลดการซื้อในต้นปีหน้า และรายงานชี้ชัดว่าการลดซื้อพันธบัตรที่เร็วขึ้นไม่ได้หมายความว่าเฟดจะเริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น โดยเห็นได้จากการที่กรรมการจำนวนมากเชื่อว่าเฟดต้องย้ำชัดเจนว่าไม่มีกลไกที่เชื่อมโยงระหว่างเวลาเริ่มลดซื้อพันธบัตรกับการนำไปสู่การขึ้นดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตามมีนักลงทุนส่วนหนึ่งยังคงเข้าซื้อหุ้นจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง
หุ้นโลว์เพิ่มขึ้น 9.5% จากกำไรที่ดีกว่าคาด
หุ้นทาร์เก็ตลดลง 2.8% แม้ผลการดำเนินงานดีกว่าคาด
นักวิเคราะห์จาก Independent Advisor Alliance ระบุว่า ในระยะสั้นตลาดยังคงจับตาการขยายตัวของเศรษฐกิจและการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์เดลตา แต่ข้อมูลเศรษฐกิจและการจ้างงานจะช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และจะช่วยหนุนตลาดให้แตะที่นิวไฮก่อนสิ้นปี
กระทรวงพาณิชย์รายงานการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนกรกฎาคมลดลง 7.0% มาที่ระดับ 1.534 ล้านยูนิต ต่ำกว่า 1.60 ล้านยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาด
สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) รายงาน จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 3.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนรอการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 สิงหาคมนี้
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มเดินทางที่ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1% ขณะที่นักลงทุนเกาะติดข้อมูลเงินเฟ้อและรอการเผยแพร่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)เดือนกรกฎาคม
ในอังกฤษเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมลดลงมาที่ 2% ซึ่งผิดคาด ขณะที่เงินเฟ้อยูโรโซฯเพิ่มขึ้นมาที่ 2.2% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018 และสูงกว่า เป้าหมาย 2%
นักลงทุนยังเกาะติดการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
หุ้นคาลสเบิร์ก เพิ่มขึ้น 2.3% หลังปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการทั้งปีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 474.42 จุด เพิ่มขึ้น 0.64 จุด, +0.14%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,169.32 จุด ลดลง 11.79 จุด, -0.16%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,770.11 จุด ลดลง 49.73 จุด, -0.73%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,965.97 จุด เพิ่มขึ้น 44.02 จุด, +0.28%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 65.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม 80 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 68.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล