ดาวโจนส์ปิดร่วง 282 จุด วิตกแนวโน้มเศรษฐกิจ

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 282 จุด นักลงทุนผิดหวังข้อมูลค้าปลีกและกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากการระบาดสายพันธุ์เดลตา ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ราคาน้ำมันดิบลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 17 สิงหาคม 2564 ปิดที่ 35,343.28 จุด ลดลง 282.12 จุด หรือ 0.79% นักลงทุนผิดหวังข้อมูลค้าปลีกและกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,448.08 จุด ลดลง 31.63 จุด, -0.71%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,656.18 จุด ลดลง 137.58 จุด, -0.93%

กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดค้าปลีกเดือนกรกฎาคมลดลง 1.1% มากกว่าการลดลง 0.3% ที่นักวิเคราะห์คาด และลดลงจากที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมิถุนายน สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการขาดแคลนสินค้าที่มีผลต่อการซื้อรถยนต์ โดยยอดขายรถยนต์ผ่านดีลเลอร์ลดลง 3.9%

นักวิเคราะห์จาก BMO Wealth Management ระบุว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา ที่แพร่กระจายมากขึ้น และยังต่อเป็นความท้าทายที่ไม่ได้หายไปโดยเร็ว

ด้านนักวิเคราะห์จาก Capital Economics ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยอดค้าปลีกที่ลดลงอาจะเป็นสัญญานว่าการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา ที่แพร่กระจายเร็วอาจมีผลให้ผู้บริโภคเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่สาธารณะ และสอดคล้องกับการบริโภคจริงที่ชะลอตัวแรงในไตรมาสสาม

คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเตรียมที่จะประกาศให้ชาวอเมริกันฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันหลังฉีดครบสองเข็มแล้ว 8 เดือน
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลาง(เฟด) การกล่าวสุนทรพจน์กับครูและนักเรียนทั่วประเทศเมื่อวานนี้ว่า ยังไม่สามารถบอกได้ว่าผลกระทบสูงสุดของการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเป็นอย่างไร

หุ้นโฮมดีโป้ลดลง 4.2% แม้รายงานยอดขายในสาขาเพิ่มขึ้นแต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

หุ้นวอลล์มาร์ตไม่เปลี่ยนแปลงแม้ผลกำไรไตรมาสสองดีกว่าคาด ส่วนหุ้นค้าปลีกอื่นทั้งหุ้นโลว์ส หุ้นทาร์เก็ต ต่างปรับตัวลดลง

ธนาคารกลางรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 0.9% หลังปรับปัจจัยฤดูกาล เป็นการเพิ่มขึ้นเร็วสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม

อย่างไรก็ตามสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) รายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนสิงหาคมลดลง 5 จุด สู่ระดับ 75 ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อน

นักลงทุนจับตาการการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 สิงหาคม

นักวิเคราะห์จาก Wells Fargo ระบุวา เงินเฟ้อเป็นความเสี่ยงต่อตลาดมากกว่า การระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยความเสี่ยงใหญ่สุดต่อตลาดคือแนวโน้มเงินเฟ้อที่จะไม่ชะลอตัวในอีก 12- 18 เดือนข้างหน้า

หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหุ้นไฟเซอร์ เพิ่มขึ้น 3.09% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เพิ่มขึ้น 0.92% หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส เพิ่มขึ้น 0.83% หุ้นEli Lilly เพิ่มขึ้น 1.03%

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% จากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส แต่การปรับขึ้นถูกจำกัดจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาขณะที่นักลงทุนเกาะติดสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศที่ตึงเครียดขึ้นหลังจากกลุ่มตาลิบันยึดครองกรุงคาบูลในอัฟกานิสถานในอังกฤษ จำนวนพนักงานภาคเอกชนเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 182,000 จากเดือนมิถุนายน ส่วนอัตราการว่างงานอยู่ที่ 4.7% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดเล็กน้อย

สำนักงานสถิติยุโรปรายงานเศรษฐกิจไตรมาสสองขยายตัว 2% การจ้างงานเพิ่มขึ้น 0.5% จากไตรมาสก่อนหน้า

หุ้น บีเอชพี กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 3.4% ในตลาดลอนดอนหลังประกาศจะถอนตัวออกจากตลาดลอนดอนละหันไปจดทะเบียนในตลาดออสเตรเลียแทน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 473.78 จุด เพิ่มขึ้น 0.33 จุด, +0.07%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,181.11 จุด เพิ่มขึ้น 27.13 จุด, +0.38%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิด ที่ 6,819.84 จุด ลดลง 18.93 จุด, -0.28%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,921.95 จุด ลดลง 3.78 จุด, -0.02%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 70 เซนต์ ปิดที่ 66.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 48 เซนต์ ปิดที่ 69.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล