EGCO จ่ายปันผลระหว่างกาล 3.25 บาท XD 27 ส.ค.นี้

HoonSmart.com>> บอร์ดผลิตไฟฟ้า ไฟเขียวปันผลครึ่งปีแรกอัตรา 3.25 บาท ผลตอบแทนประมาณ 3.7% ต่อปี ขึ้น XD วันที่ 27 ส.ค.นี้ จ่ายเงิน 10 ก.ย.64 ด้านกำไรครึ่งปีแรก 2,095 ล้านบาท ลดลง 55% จากงวดปีก่อน ส่วนไตรมาส 2/64 กำไรลด 70% ค่าเงินบาทอ่อนฉุดขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ด้านรายได้รวมลด 3% ด้านกำไรจากการดำเนินงานยังเติบโต

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2564 มีมติเห็นชอบให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 3.25 บาท คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 1,711 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น ที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 30 ส.ค.2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 10 ก.ย.

ทั้งนี้ เงินปันผลคิดเป็นอัตราส่วนผลตอบแทนประมาณ 3.7% ต่อปี เมื่อเทียบกับราคาหุ้นเอ็กโกปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 176.50 บาท วันที่ 16 ส.ค.2564

“เอ็กโก กรุ๊ป มีนโยบายรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นและจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ แม้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 มีความท้าทายในการดำเนินธุรกิจอยู่พอสมควร แต่เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงมี ผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่องและมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งยังช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ถือหุ้นในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ นอกจากนั้น บริษัทยังคงมุ่งมั่นแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้บริษัทและสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น” นายเทพรัตน์ กล่าว

ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,510.41 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.87 บาท ลดลง 70% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 5,075.04 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 9.64 บาท

ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิ 2,095.87 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.98 บาท ลดลง 55% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 4,661.67 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 8.85 บาท

สาเหตุหลักจากบริษัทรับรู้ผลขาดทุนสุทธิ จากการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน อีกทั้งการอ่อนค่าของค่าเงินบาท ส่งผลให้บริษัทรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากการแปลงมูลค่าหนี้สินระยะยาวสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐเป็นสกุลเงินบาท โดยไตรมาส 2/2564 ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 944 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรค่าเงิน 2,016 ล้านบาท

ขณะที่รายได้รวมในไตรมาส 2/2564 มีจำนวน 10,258 ล้านบาท ลดลง 3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและ 6 เดือนแรกอยู่ที่ 18,879 ล้านบาท ลดลง 10% จากงวดปีก่อน

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 158% หรือ 925 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564 โดยสาเหตุหลักที่ต่างจากกำไรจากการดำเนินงานเกิดจากบริษัทรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการแปลงมูลค่าหนี้สินระยะำยาวสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐเป็นสกุลเงินบาท