HoonSmart.com>> บลจ.กรุงไทย เปิดขายซีรีส์ใหม่กองทริกเกอร์ฟันด์ “เคแทม โกลบอล เนกซ์ เทรนด์ ทริกเกอร์ ฟันด์” ระหว่าง 16-20 ส.ค.นี้ ตั้งเป้าผลตอบแทน 6% ภายในเวลา 7 เดือน เน้นลงทุนนกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จาก Mega Trends ตอบโจทย์นักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนในการลงทุนระยะสั้นจากการจับจังหวะตลาด (Market Timing)
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายกองทุนทริกเกอร์ใหม่ ที่มีเป้าหมาย 6% ภายในระยะเวลา 7 เดือน คือ กองทุนเปิดเคแทม โกลบอล เนกซ์ เทรนด์ ทริกเกอร์ ฟันด์ (KTGNEXT) ในระหว่างวันที่ 16-20 ส.ค.2564 โดยกองทุนนี้มีความน่าสนใจในเรื่องของความยืดหยุ่นในการบริหารและกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงโดยใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบกำหนดธีมการลงทุน (Thematic Investment) ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนซึ่งจะอาศัยการวิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลกเพื่อค้นหากลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จาก Mega Trends ในการสร้างเป้าหมายผลตอบแทนให้เป็นไปตามที่กำหนด รวมถึงรับประโยชน์จากแนวโน้มการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ดีขึ้น
กองทุนเปิดเคแทม โกลบอล เนกซ์ เทรนด์ ทริกเกอร์ ฟันด์ (KTGNEXT) มีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ อาทิ หน่วย CIS และ/หรือ กองทุนรวมอีทีเอฟ และ/หรือกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (กองทุนปลายทาง) ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
การลงทุนในกองทุนปลายทางดังกล่าวมีนโยบายลงทุนทั้งใน ตราสารแห่งทุน ตราสารแห่งกึ่งหนี้กึ่งทุน ทรัพย์สินทางเลือก และ/หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นใดตามที่กฎหมาย ก.ล.ต. กำหนด โดยกองทุนจะพิจารณาปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึง ร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ทั้งนี้ กองทุนอาจจะมีการลงทุนที่ส่งผลให้มี Net Exposure ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) และ/หรือ เพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
นางชวินดา กล่าวเสริมว่า ในช่วงเวลานี้ กองทุน KTGNEXT น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์แก่นักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนในการลงทุนระยะสั้นจากการจับจังหวะตลาด (Market Timing) รวมถึงกำลังมองหาโอกาสจากกลยุทธ์การลงทุนแบบ Thematic Investment เพื่อโอกาสสร้างมูลค่าหน่วยลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ เงื่อนไขของเลิกกองทุน บริษัทจัดการจะดำเนินการเลิกกองทุนและพิจารณารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมดภายใน 5 วันทำการ ในกรณีที่ มูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.7222 บาทต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 2 วันทำการติดต่อกันขึ้นไป และทรัพย์สินของกองทุนที่จะซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติจะต้องเป็นเงินสด หรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด หรือ เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.7222 บาทต่อหน่วย และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด ณ วันทำการใด หรือในกรณี ณ วันทำการใดก็ตามที่ทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดบางส่วน หรือทั้งหมด และสามารถรับซื้อคืนได้ไม่ต่ำกว่าอัตราที่บริษัทจัดการกำหนด โดยมูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 107 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท)
อย่างไรก็ตาม หากไม่เกิดเหตุการณ์ที่มูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นจนเป็นเหตุให้เลิกกองทุนภายใน 7 เดือน นับจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม บริษัทจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถทำการขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการตามที่บริษัทกำหนด และหาก ณ วันใดก็ตามที่กองทุนเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุนตามที่บริษัทกำหนด บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการเลิกกองทุนตามเหตุการณ์ดังกล่าว
สำหรับมูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก คือ 10,000 บาท สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ktam.co.th หรือขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 ในเวลาทำการ และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา และผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี)