SSP กำไรดำเนินงาน Q2 แตะ 235 ลบ. EBITDA โต 21% จ่อ COD วินด์ฟาร์มเวียดนาม

HoonSmart.com>> “เสริมสร้าง พาวเวอร์ฯ” กำไรจากการดำเนินงาน Q2/64 แตะ 235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากงวดเดียวกันปีก่อน EBITDA โต 21% รับรู้รายได้จากโครงการ Yamaga ที่ญี่ปุ่น ตามสัญญา 30 เมกะวัตต์เต็มไตรมาส ครึ่งปีหลังเดินหน้า COD เพิ่ม ล่าสุดกดปุ่มโซลาร์ฟาร์มโครงการ LEO1 กำลังผลิต 20 เมกะวัตต์เรียบร้อยรับรู้รายได้ทันที คาดไตรมาส 4/64 วินด์ฟาร์มเวียดนาม พร้อมจ่ายไฟ ดันกำลังผลิตไฟฟ้าสิ้นปีนี้ทะลุเป้า 200 เมกะวัตต์

วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาส 2/2564 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2564 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมี EBITDA เท่ากับ 478 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%

ทั้งนี้ บริษัทฯมีกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัท) จำนวน 240 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่นนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง

สำหรับกำไรหลักจากการดำเนินงานจำนวน 235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราส่วนกำไรหลักจากการดำเนินงาน 41 % ของรายได้รวม

“ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานอยู่ในทิศทางที่ดี แม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการ Yamaga ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตตามสัญญา 30 เมกะวัตต์ เปิดดำเนินการระหว่างปี 2563 และจะรับรู้เต็มปีในปี 2564 ขณะเดียวกันเป็นฤดูกาลของความเข้มข้นของแสงแดดอยู่ในระดับสูงทำให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าอยู่ในระดับที่ดีขึ้นด้วย”นายวรุตม์ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจาก ล่าสุดได้จ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 1 ขนาด 20 เมกะวัตต์ ในประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าในปัจจุบัน 177 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ในไตรมาส 3/2564 ขณะที่โครงการพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ขนาด 48 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถ COD ภายในไตรมาส 4/2564 ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศภายในปีนี้ทะลุ 200 เมกะวัตต์

นอกจากนี้แผนการดำเนินงานในอนาคต บริษัทฯเตรียมขยายการลงทุน Solar Rooftop ในประเทศอินโดนีเซีย โดยคาดว่าภายในปี 2565 จะ COD ประมาณ 16 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 2 ในประเทศญี่ปุ่นขนาด 17 เมกะวัตต์ โดยอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการ และคาดว่าจะ COD ได้ในปี 2566 ทั้งนี้ บริษัทฯวางเป้าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์