SCBAM : ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ฟื้นตัวดีขึ้นกว่าที่ตลาดคาด

ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ค่อนข้างผันผวนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดโดยรวมยังคงขึ้นอยู่กับการระบาด COVID-19 ที่กลับมาเร่งตัวขึ้นทั่วโลกจากสายพันธุ์ Delta ทำให้หลายประเทศต้องกลับมาใช้มาตรการ Lockdown อีกครั้ง อย่างไรก็ดีความคืบหน้าของวัคซีนยังคงเป็นปัจจัยหนุนตลาดอย่างสำคัญ โดยล่าสุดประเทศพัฒนาแล้วฝั่งตะวันตก เช่น สหรัฐฯ และยุโรปมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนถึง 58.63% และ 50.93% ของจำนวนประชากรทั้งหมดตามลำดับ

ตลาดแรงงงานสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค. ฟื้นตัวดีขึ้นกว่าที่ตลาดคาด การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.ค. ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 9.43 แสนตำแหน่ง สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. ในปีที่ผ่านมา และสูงกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 8.7 แสนตำแหน่ง ซึ่งการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจกลุ่มโรงแรม การศึกษา การบริการ การขนส่ง และการบริการด้านสุขภาพและการให้ความช่วยเหลือทางสังคม

สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ โหวตผ่านแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 5.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติ 69-30 ผ่านแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 5.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แบ่งเป็น โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง วงเงิน 2.84 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้แก่ ถนน สะพาน และขนส่งสาธารณะ เป็นต้น และโครงสร้างพื้นฐานหลักอื่นๆ วงเงิน 2.64 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้แก่ ระบบโครงข่ายไฟฟ้า และการประปา เป็นต้น

ปรับลดคำแนะนำลงทุนในกลุ่มหุ้นกลุ่ม Growth และเพิ่มลงทุนในหุ้นกลุ่ม Value การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.ค. ในสหรัฐฯ และการส่งสัญญาณลดสภาพคล่องของ Fed อาจส่งผลให้ผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และอาจส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Growth มีความผันผวนสูงขึ้น ขณะที่หุ้น Value ได้รับปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจฟื้นตัว และการผ่านแผนงบประมาณภาครัฐ

ปรับคำแนะนำจาก “คงน้ำหนักการลงทุน” เป็น “ลดน้ำหนักการลงทุน” ในทองคำ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่งสัญญาณว่าจะดำเนินการนโยบายการเงินที่เข้มงวดเร็วกว่าคาด และอาจประกาศชะลอเข้าซื้อสินทรัพย์เบื้องต้นเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (Dollar index) แข็งค่าขึ้น และเป็นปัจจัยกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะทองคำ ทำให้นักเก็งกำไรขายสัญญาทองคำออกมาเป็นจำนวนมาก

ปรับคำแนะนำจาก “คงน้ำหนักการลงทุน” เป็น “เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” ให้หุ้นจีน H-Share แม้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในจีน ซึ่งมีสัดส่วนในตลาดหุ้นจีน H-Share สูง ต่างได้รับผลกระทบจากกฎหมายป้องกันการผูกขาดที่ถูกรัฐบาลสั่งปรับอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ดี คาดว่าผลกระทบจากกฎหมายการควบคุมของรัฐบาลต่อหุ้นขนาดใหญ่ได้สะท้อนข่าวร้ายไปแล้วพอสมควร ประกอบกับในระยะยาวคาดว่ารัฐบาลยังคงส่งเสริมธุรกิจเทคโนโลยีอยู่ อีกทั้งตลาดมี Valuation ที่น่าสนใจ