7 หุ้นสื่อบันเทิงกำไรโต Q2/64 โฆษณาพุ่ง BEC โกย 185 ลบ.-W0RK ปันผลครึ่งปี

HoonSmart.com>> 7 หุ้นสื่อบันเทิง เปิดกำไรไตรมาส 2/64 รายได้โฆษณาเพิ่มขึ้น BEC กำไร 185 ล้านบาท โต 169% “สรยุทธ” คืนจอ ละครใหม่เรทติ้งดี ฟาก WORK ฟาด 154 ล้านบาท รายเดียวจ่ายปันผลงวดครึ่งปี 0.20 บาท/หุ้น ด้าน GRAMMY ขาดทุน 15 ล้านบาท บันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมในสินทรัพย์ทางการเงินสูงถึง 160 ล้านบาทฉุดงบ ด้านรายได้รวมยังโต “ธุรกิจเพลง ภาพยนตร์” ดี

HoonSmart รวบรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2564 ของหุ้นสื่อบันเทิงจำนวน 7 บริษัท พบบริษัท บีอีซี เวิลด์ (BEC) มีกำไรสุทธิสูงสุดอยู่ที่ 184.69 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.09 บาท เติบโต 169.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 266.76 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.13 บาท โดยผลประกอบการพลิกกลับเป็นกำไร 4 ไตรมาสติดต่อกัน ตั้งแต่ไตรมาส 3/2563

ถึงแม้การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในระลอกที่ 3 จะยังคงกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่การใช้เม็ดเงินโฆษณาโดยรวมในไตรมาส 2/2564 มีการขยายตัวจากการปรับตัวของผู้ซื้อโฆษณา อีกทั้ง BEC ได้มีการปรับปรุงคอนเทนต์รายการข่าวทั้งผัง และมีผู้ประกาศข่าวที่มีความนิยมสูง เช่น นายสรยุทธ ทัศนจินดา มาดำเนินรายการ

นอกจากนี้มีละครใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่อง และมีความยืดหยุ่นในการการปรับผังรายการต่างๆ ตามเม็ดเงินโฆษณา ทำให้รายได้รวมของกลุ่ม BEC เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ 1,504.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.1% จากไตรมาส 2/2563 และเพิ่มขึ้น 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้จากการขายเวลาโฆษณาเป็นรายได้หลัก ( 81.2% ของรายได้รวม มาจากโฆษณาของช่อง 33 เป็นหลัก) ของกลุ่ม BEC มีจำนวน 1,222.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.83% จากไตรมาส 2/2563 และเพิ่ม 4.1% จากไตรมาสก่อน

ส่วนงวด 6 เดือนปี 2564 กำไรสุทธิ 323.51 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.16 บาท เติบโต 160% จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 541.92 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.27 บาท

ด้านบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) กำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 จำนวน 154.16 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.349 บาท เพิ่มขึ้น 7,494% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2.03 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.005 บาท

บริษัทฯ มีรายได้รวม 575.80 ล้นบาท เพิ่มขึ้น 106.52 ล้านบาท หรือ 23% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากรายการโทรทัศน์มีจำนวน 558.10 ล้านบาท เพิ่ม 49% จากงวดปีก่อน ขณะที่รายได้จากการรับจ้างงานผลิต จากการจัดคอนเสิร์ตและละครเวที รวมถึงรายได้จากการขายสินค้าและบริการอื่นลดลง

ส่วนงวด 6 เดือนปี 2564 กำไรสุทธิ 272 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.616 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 48.33 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.109 บาท

คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลจากผลดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย. 2564 อัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 25 ส.ค. 2564 ขึ้น XD วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล 24 ส.ค. 2564 และจ่ายเงินวันที่ 6 ก.ย.2564

บริษัท อสมท (MCOT) กำไรสุทธิ ไตรมาส 2/2564 จำนวน 43.63 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.06 บาท เพิ่มขึ้น 123% จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 183.95 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.27 บาท โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 389 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและเพิ่ม 7% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีรายได้เพิ่มทั้งโทรทัศน์ธุรกิจวิทยุ ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล ธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่

ส่วนงวด 6 เดือนปีนี้กำไรสุทธิ 79.13 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท เพิ่มขึ้น 107% จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 1,061.34 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 1.54 บาท

บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง (AMARIN) กำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 จำนวน 56.50 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.06 บาท เติบโต 185% จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 66.76 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.07 บาท โดยรายได้จากสื่อทีวีดิจิทัลมีอัตราการเพิ่มขึ้น 74.72% จากงวดปีก่อน ขณะเดียวกันรายได้จากธุรกิจการจัดจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ผ่านหน้าร้านและสื่อสิ่งพิมพ์อิเลคทรอนิคส์ผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 37.41% ส่งผลให้รายได้รวมเพิ่ม 40% อยู่ที่ 680 ล้านบาท

ขณะที่งวดครึ่งปีมีรายได้รวม 1,392.28 ล้านบาท เติบโต 17% และมีกำไรสุทธิครึ่ง 163.37 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.16 บาท เพิ่มขึ้น 292.18% จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 85.01 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.09 บาท

บริษัท โมโน เน็กซ์ (MONO) ไตรมาส 2/2564 กำไรสุทธิ 14.74 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.004 บาท เติบโต 109% จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 167.90 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.048 บาท โดยมีรายได้รวม 568.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 235 ล้านบาท หรือ 70.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและและเพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาท หรือ 0.8% จากไตรมาสก่อน โดยหลักเกิดจากรายได้โฆษณาเพิ่มขึ้น 214 ล้านบาท หรือ 102.8% จากงวดปีก่อน

ส่วนงวด 6 เดือนปีนี้กำไรสุทธิ 27.87 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.008 บาท จากขาดทุนสุทธิ 558.17 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2563 ขาดทุนต่อหุ้น 0.161 บาท

บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) ขาดทุนสุทธิไตรมาส 2/2564 จำนวน 15.03 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.02 บาท ลดลง 300.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 7.50 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.01 บาท เนื่องจากมีรายการพิเศษจากการบันทึกขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมในสินทรัพย์ทางการเงินอื่นจำนวน 160.1 ล้านบาท

ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานมีจำนวน 1,006.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและมีรายได้รวม 1,012.8 ล้านบาท เติบโต 8.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากธุรกิจเพลงซึ่งเป็นรายได้หลักมีสัดส่วน 44.1% ของรายได้รวม และมีการเติบโต 5.2% รายได้ธุรกิจภาพยนต์เติบโต 387.2% จากงวดปีก่อน ขณะที่ธุกิจโฮมช้อปปิ้งลดลง 13.3%

นอกจากนี้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วม 89 ล้านบาท สูงขึ้นจาก 26.7 ล้านบาท หรือ 232.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมค้า บริษัท เดอะวัน เอ็นเตอร์ไพรส์

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกกำไรสุทธิ 383.16 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.47 บาท เติบโต 691% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 48.46 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.06 บาท

บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย (JKN) และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 จำนวน 60.63 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.10 บาท ลดลง 29% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม 457.82 ล้านบาท ลดลง 1.4% จากงวดเดียวกันมีจำนวน 464.30 ล้านบาท โดยกลุ่มธุรกิจคอนเทนต์ เป็นกลุ่มธุรกิจหลักที่ทำรายได้และกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ จากการจำหน่ายคอนเทนต์ให้ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศที่ทยอยส่งมอบได้ต่อเนื่อง

ส่วนงวด 6 เดือนปี 2564 กำไรสุทธิ 160.04 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.26 บาท ลดลง 11% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 180.25 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.30 บาท