LINE มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อธุรกิจไทย

HoonSmart.com>> LINE ประเทศไทย เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ตอกย้ำการเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลให้คนไทย  พัฒนาต่อเนื่องเครื่องมือธุรกิจบนแพลตฟอร์ม

นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ใน 10 ปีที่ผ่านมา LINE ได้มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงคนและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ภายใต้ภารกิจ Closing the distance และพัฒนากลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานการใช้ชีวิตดิจิทัลให้คนไทย และเมื่อเกิดวิกฤตโควิด 19 ขึ้น เรายิ่งได้เห็นการปรับตัวของคนไทยเข้าสู่ดิจิทัลอย่างเต็มตัวผ่านการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม LINE เพิ่มมากขึ้นในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ

“วิกฤตโควิด 19 ทำให้ภาคธุรกิจปรับตัวมาเป็นดิจิทัลกันแทบทั้งหมด หากแต่ยังมีความท้าทายรออยู่อีกมาก LINE จึงพร้อมที่จะเป็นเครื่องมือหลักในการทำธุรกิจของคนไทย เป็นตัวกลางเชื่อมโยงการทำธุรกิจออฟไลน์สู่โลกออนไลน์ ผลักดันให้ทุกองค์กรธุรกิจสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้ใช้งาน เพิ่มประสิทธิภาพต่อยอดสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในยุคดิจิทัล เพื่อเป้าหมายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจองค์รวมของไทยให้พร้อมในการแข่งขันกับธุรกิจในตลาดโลก บนบริบทใหม่ที่จะมาถึง”  นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร กล่าว

LINE ให้บริการลูกค้าธุรกิจ และ SME ภายใต้แบรนด์ LINE for Business ผ่านโซลูชั่นหลักคือ LINE Official Account (LINE OA)  กลุ่มธุรกิจที่ LINE ได้เข้าไปมีบทบาทกลุ่มแรกๆ คือกลุ่มธุรกิจการเงิน ยอดเติบโตของการใช้งาน Digital Banking ผ่าน LINE API เพิ่มขึ้นถึง 80% โดยการให้บริการ Digital Banking service เพียงอย่างเดียวเติบโตอย่างก้าวกระโดดมากขึ้นถึง 2.8 เท่า

ในขณะเดียวกัน วิกฤตโควิด-19 ได้กลายเป็นปัจจัยเร่งให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจ คือ กลุ่มธุรกิจสินค้าหรูหรา Luxury ในประเทศไทยโดยในช่วงปี 2562 – 2564 ที่ผ่านมา มีแบรนด์สินค้าหรูหันมาเปิดใช้งาน LINE OA เพิ่มขึ้นโดยรวมถึง 60% โดยกลุ่มเครื่องสำอางหรู 54%  ต่อมาคือแฟชั่น  35% และยานยนต์หรู 11%

ในส่วนอัตราการเติบโตของ LINE OA ธุรกิจกลุ่มร้านอาหารมีอัตราการเปิดใช้งาน LINE OA เพิ่มขึ้น (YoY) สูงสุดสุงถึง 212% รองลงมาคือธุรกิจกลุ่มค้าปลีกที่ 191% และกลุ่มการศึกษา 101%

ผลการสำรวจจาก สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เผยถึง กลุ่มธุรกิจ SME ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดในช่วงวิกฤตโควิด-19 คือ ธุรกิจอาหาร ซึ่งส่งผลต่อ GDP ลดลงถึง 37% รองลงมาคือ ธุรกิจขนส่ง และค้าปลีก ในอัตราส่วนที่ลดลง 21% และ 3.7% ตามลำดับ

นอกจากนี้ เดินหน้าผลักดัน SME ผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก โดยเน้นความสำคัญในส่วนกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME)  ด้วยส่วนแบ่งใน GDP มากถึง 45% และมีจำนวนมากกว่า 3 ล้านรายทั่วประเทศ

1.กลุ่มธุรกิจอาหาร ได้ออกแบบ MyRestuarant เครื่องมือช่วยเสริมประสิทธิภาพ LINE OA สำหรับธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยโดยเฉพาะ ในการจัดการหน้าร้าน ไปถึงการจัดการหลังร้าน การวิเคราะห์ข้อมูลจากอาหารที่สั่ง และ การเชื่อมถึงการจัดส่งกับบริการ LINE Man โดยตรง

2.กลุ่มธุรกิจค้าปลีก ได้ออกแบบ MyShop เครื่องมือที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ LINE OA ด้านการขายของ  ผ่านการพูดคุย หรือ Chat Commerce ระบบการชำระเงินเชื่อมต่อกับ Rabbit LINE Pay ระบบขนส่งสินค้ากับทุกบริษัท โดยเฉพาะ ไปรษณีย์ไทย

3.กลุ่มบริการสาธารณะต่างๆ LINE OA เป็นตัวกลางสำคัญสำหรับกลุ่มบริการสาธารณะ และองค์กรภาครัฐในการอัพเดทข้อมูล ให้ความรู้ และให้บริการให้ด้านต่างๆ แก่ประชาชนคนไทย อาทิ โรงพยาบาล สาธารณูปโภค น้ำ ไฟ ซึ่ง LINE เล็งเห็นว่าบริการสาธารณะต่างๆ เหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญต่อการขับเคลื่อนสู่โลกดิจิทัลเพื่อประโยชน์ต่อองค์รวมของประเทศด้วยเช่นกัน