ดาวโจนส์ปิดลบกว่า 100 จุด เงินเฟ้อมิ.ย.สูงเกินคาด

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ลบกว่ากว่า 100 จุด หลังเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. สูงเกินคาด นักลงทุนวิตกเฟดจะไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ กลบผลการดำเนินงานไตรมาส 2 จับตาถ้อยแถลง “เจอโรม พาวเวล” ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 13 กรกฎาคม2564 ปิดที่ 34,888.79 จุด ลดลง 107.39 จุด หรือ 0.31% จากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด นักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลาง (เฟด) จะไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้และกลบผลการดำเนินงานไตรมาสสอง

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,369.21 จุด ลดลง 15.42 จุด, -0.35%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,677.65 จุด ลดลง 55.59 จุด, -0.38%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 0.04% มาที่ระดับเหนือ 1.4% หลังจากการเผยแพร่เงินเฟ้อ

กระทรวงแรงงานรายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 5.4% จากระยะเดียวกันของปีก่อน สูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2008 และสูงกว่า 5.0%ที่นักวิเคราะห์คาด เมื่อเทียบรายเดือน CPI เพิ่มขึ้น 0.9% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2008 สูงกว่า 0.5% ที่นักวิเคราะห์คาด

CPI พื้นฐานไม่รวมพลังงานและอาหารเพิ่มขึ้น 4.5% สูงสุด นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2008 และสูงกว่า 3.8% ที่นักวิเคราะห์คาด

นักวิเคราะห์จากคอร์เนอร์สโตนเวลธ์ ให้ความเห็นว่า เงินเฟ้อเดือนมิถุนายนทำให้ตลาดกังวล แต่มองไปข้างหน้าคาดว่า เงินเฟ้อจะเริ่มอ่อนตัวลง ราคารถมือสองที่เพิ่มขึ้น 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจะไม่ทรงตัวในระดับนี้ในหลายเดือนข้างหน้า

แม้ผลการดำเนินงานไตรมาสสองช่วยหนุนตลาด แต่นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางจะยกเลิกมาตรการผ่อนคลายอย่างไร และแรงกดดันเงินเฟ้อทำให้มุ่งความสนใจไปที่เมื่อไรเฟดจะเริ่มลดการซื้อพันธบัตร

นางแมรี ดาลี ประธานธนาคารกลาง(เฟด) สาขาซานฟรานซิสโกให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นบีซี ว่า เชื่อว่าเงินฟเอที่เพ่มขึ้นจะเป็นภาวะชั่วคราว และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอาจจะทำให้เฟดลดการซื้อพันธบัตรลงในปลายปี 2021 หรือต้นปี 2022

หุ้นกลุ่มธนาคารลดลง แม้โกลด์แมน แซค และเจพีมอร์แกนรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่สูงกว่าคาด แต่เป็นผลจากการบันทึกำไรกลับจากที่ตั้งสำรองสูงในช่วงการระบาด โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 1.19% หุ้นเจพีมอร์แกน ลดลง 1.72% หุ้นเวลลส์ ฟาร์โกลดลง 2.11% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 1.99% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ลดลง 1.56%

ผลการดำเนินงานโดยรวมไตรมาสสองคาดว่าจะสดใสโดยจะเติบโตราว 64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นรายไตรมาสมากสุดนับตั้งแต่ปี 2009 และผลการดำเนินงานกลุ่มธนาคารคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากว่า 2 เท่า หรือเพิ่มขึ้นราว 119.5% จากระยะเดียวกันของปีก่อน

นักลงทุนจากแซงชัวรีเวลธ์ระบุว่า นักลงทุนยังจับตาการรายงานผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารใน2-3 สัปดาห์หน้า

นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ และแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 15 กรกฎาคม

หุ้นเป๊ปซี่ โค เพิ่มขึ้น 2.31% หลังรายงานกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด การณ์ที่ระดับ 1.53 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่ร้านอาหารกลับมาให้บริการเครื่องดื่มและอาหารแก่ผู้บริโภค หลังจากที่ปิดในช่วงล็อกดาวน์ และได้ปรับคาดการณ์ผลการดำเนินงานขึ้น

หุ้นโบอิ้ง ลดลง 4.23% หลังสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) ระบุว่า เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์บางลำที่ยังไม่ได้ถูกส่งมอบนั้น มีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพด้านการผลิต พร้อมสั่งให้บริษัทแก้ปัญหาให้ได้ก่อนที่จะส่งมอบเครื่องบินให้กับลูกค้า

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง แม้กลุ่มเทเลคอมเพิ่มขึ้น 0.9% จากความกังวลอัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนสหรัฐฯที่สูงกว่าคาด แต่นักลงทุนขานรับการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาสสองที่แข็งแกร่ง

หุ้นโนเกียเพิ่มขึ้น 8% หลังประกาศจะปรับคาดการณ์ผลการดำเนินงานทั้งปีขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 460.96 จุด เพิ่มขึ้น 0.13 จุด, +0.03%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,124.72 จุด ลดลง 0.70 จุด, -0.01%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,558.47 จุด ลดลง 0.78 จุด, -0.01%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,789.64 จุด ลดลง 0.87 จุด, -0.01%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 75.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 76.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล