ด่วน! PTTGC ไม่ต้องเพิ่มทุน บล.กรุงไทยซีมิโก้ฟันธง ซื้อกิจการเยอรมนีคุ้มค่า

HoonSmart.com>>พีทีที โกลบอล เคมิคอล ถูกทิ้งแรงผิดปกติ ถลาลงไปต่ำสุด 54.25 บาท นักวิเคราะห์มองซื้อกิจการเยอรมนีแพงเกินไป มูลค่า 1.97 แสนล้านบาท ตลาดกังวลว่าจะต้องเพิ่มทุน บล.กรุงไทย ซีมิโก้ ฟันธงไม่ต้องกลัวเพิ่มทุน กระแสเงินสด-กู้เงินปตท. 73,920 ล้านบาท -ยืมแบงก์เพียงพอ ราคาร่วงเป็นโอกาสซื้อ ให้เป้าหมาย 71 บาท ไม่รวมซื้อกิจการครั้งนี้ ดีลนี้ดีระยะยาว บล.กสิกรไทยลั่นได้ไม่คุ้มเสีย ลั่นไม่ใช่ธุรกิจที่มีมูลค่าสูง

หุ้นบริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ดิ่งลงแรงผิดปกติ ราคาลงไปลึกที่สุด 54.25 บาท ก่อนฟื้นขึ้นมาปิดที่ 54.50 บาท ทรุดหนัก – 4.00 บาท คิดเป็น -6.84% ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 4,162 ล้านบาท สำหรับภาคเช้าวันที่ 12 ก.ค. 2564

สาเหตุที่ทำให้หุ้น PTTGC ถลาลงแรง หลังจากบริษัทประกาศว่าจะลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่มีมูลค่าสูง หรือ  High Value Business (HVB) ซื้อหุ้น Allnex Holding GmbH ในราคามากถึง 1.97 แสนล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2564 นักวิเคราะห์มองว่าเป็นการซื้อกิจการที่ราคาแพงมาก และเงินลงทุนที่สูงอาจจะสร้างความกังวลให้กับตลาดในเรื่องเกี่ยวกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ วิเคราะห์จากการ Conference call ว่า การเข้าซื้อธุรกิจที่มีมูลค่าสูง บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยอัตราส่วน net debt/equity ที่เพียง 0.5 เท่าและเงินสดในมืออีกราว 1 แสนล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสแรก มีเงินจากการขายหุ้น GPSC อีก 25,000 ล้านบาท จึงน่าจะสามารถลงทุนในกิจการดังกล่าวได้โดยไม่ต้องเพิ่มทุน

นอกจากนี้ราคาซื้อกิจการคิดเป็น EV/EBITDA ที่ประมาณ 10 เท่า ซึ่งเป็นราคาตลาด เทียบกับอุตสาหกรรมที่ 6-12 เท่า ขึ้นอยู่กับ product portfolio ของแต่ละบริษัท หากเน้น specialty chemical ในสัดส่วนที่สูง ก็จะตกราว 11-12 เท่า จากการประมาณการเบื้องต้น คาดว่ากำไรระยะยาวของ PTTGC จะเพิ่มขึ้นราว 16%  โดยเฉลี่ย และจะมีอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายประมาณ 3 บาท/หุ้น ในปี 2564

“ราคาหุ้นที่ร่วงลงแรง อาจเป็นโอกาสในการทยอยสะสม เรามองดีลดังกล่าวเป็นบวกในระยะยาว โดยประมาณการกำไร และราคาเป้าหมายปัจจุบันที่ 71 บาท ยังไม่รวมดีลนี้ หากดูผลการดำเนินงานของ Allnex พบว่ามี EBITDA ราว 330-350 ล้านยูโร/ปี (12-13 พันล้านบาท/ปี), มีกำไรสุทธิราว 80-100 ล้านยูโร/ปี (ราว 3.0-3.7 พันล้านบาท/ปี) และมี EBITDA margin ราว 13-17% ซึ่งคาดจะหนุนให้ฐานกำไรของ PTTGC ในอนาคตแข็งแกร่งขึ้นและการลงทุนสอดรับกับเป้าหมายการเติบโดอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยเน้นการลงทุนสู่ธุรกิจ HVB ที่บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่ม EBITDA contribution จากธุรกิจนี้เป็น 25% ในปี 2030 (จากปัจจุบันที่ 10%)”

แม้ว่าการกู้ยืมเงินจากปตท.จำนวนไม่เกิน 73,920 ล้านบาท อายุ 24 เดือน อัตราดอกเบี้ยเทียบเคียงตลาด ไม่เกิน 2.5% ต่อปี  และกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินอาจทำให้ net D/E ratio อาจเร่งตัวขึ้นเป็นอยู่ที่ระดับ 0.6 เท่า ซึ่งคาดจะเป็นระดับสูงสุด และปรับลดลงในปีหน้า จากการจ่ายคืนหุ้นกู้บางส่วน และเงินที่ได้จากการดำเนินงาน

สำหรับ Allnex เป็นผู้ผลิตชั้นนำของโลกในการผลิตสาร Industrial Coating Resins และสาร Additives ที่ใช้สำหรับงาน สถาปัตยกรรม อุตสาหกรรมทั่วไป สารเคลือบป้องกัน อุตสาหกรรมรถยนต์ รวมทั้งสารเคลือบผิวและหมึกชนิดพิเศษ มีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุน เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ในการดําเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นเข้าสู่ธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง (มีอัตรากำไรอยู่ในระดับสูงและมีความผันผวนน้อย) รวมทั้งเป็นการขยายกำลังผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1.2 ล้านตัน (เพิ่มขึ้น 11% จากปัจจุบัน) และเป็นการขยายฐานลูกค้าของบริษัท (Allnex มีการดำเนินงานอยู่ใน 14 ประเทศทั้งในทวีปอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง เอเชีย นอกจากนั้น Allnex เป็นกิจการที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 71.9 ล้านยูโร (ประมาณ 2,600 ล้านบาท)

บล.กสิกรไทยวิเคราะห์ว่า การเข้าซื้อกิจการ Allnex ที่ราคา 9.8 เท่าของ EV/EBITDA ซึ่งแพงกว่าการเข้าซื้อกิจการ 5.7เท่า EV/EBITDA ของ Covestro เพื่อซื้อ DSM (รวมถึง Euro120mn synergy) ฝ่ายบริหารอ้างว่าการเข้าซื้อกิจการของ Covestro เกิดขึ้นที่ 10 เท่า EV/EBITDA บนพื้นฐานเดียวกัน

ผู้บริหารมองว่าการลงทุนครั้งนี้ คือ ธุรกิจมูลค่าสูง แต่เรามองว่าเป็นเรื่องปกติของธุรกิจพลาสติกสมรรถนะสูงที่ความสามารถในการทำกำไรจะผันผวนตามวัฏจักรอุตสาหกรรม แม้จะมีอัตรากำไรที่คงที่ก็ตาม ตัวอย่างเช่น ในปี 2563 รายได้และ EBITDA ของ Allnex ลดลงเหลือ 29 ล้านยูโรและ 270 ล้านยูโรเนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์และผลกระทบของสงครามการค้า รวมถึงการทำงานร่วมกันประมาณ 20 ล้านยูโรต่อปีภายใต้การศึกษา ส่วนใหญ่เป็นการย้ายฐานการผลิตและสำนักงาน กำไรสุทธิ LTM12 เท่ากับ 88 ล้านยูโร ในระดับรวมของ PTTGC กำไรส่วนเพิ่มจะลดลง 40 ล้านยูโร เนื่องจากดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น ดังนั้น การสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นอาจมีน้อยเมื่อเทียบกับงบดุลที่หนักกว่า

อ่านประกอบ

PTTGC เทกโอเวอร์ Allnex Holding ธุรกิจผลิตภัณฑ์ HVB มูลค่า 1.97 แสนลบ.