SCB CIO เชื่อหุ้นไทยไม่หลุด 1,500 จุด-รัฐบาลเลือกล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่

HoonSmart.com>>SCB CIO มองไตรมาส 3 หุ้นไทยไซค์เวย์ เชื่อดัชนีไม่หลุด 1,500 จุด แนะจัดพอร์ทเน้นต่างประเทศให้น้ำหนักลงทุนหุ้น 60-65% ลุ้นรัฐบาลล็อกดาวน์เฉพาะบางพื้นที่

นายศรชัย สุเนต์ตา กรรมการผู้จัดการ SCBS CIO กล่าวถึงสถานการณ์หุ้นไทยในไตรมาส 3 ว่า เป็นตลาดไซค์เวย์ มีแนวโน้มปรับฐาน เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ที่ยังรุนแรง แต่เชื่อดัชนีจะไม่หลุดระดับ 1,500 จุด และไตรมาส 4 หุ้นไทย น่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หากการกระจายและฉีดวัคซีนทำได้ดีขึ้น ดังนั้นหากดัชนีหุ้นปรับลดลงให้ทยอยสะสมลงทุน

สำหรับการล็อกดาวน์ประเทศ SCB CIO เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ตัดสินใจแนวทางที่เข้มข้นเหมือนการล็อกดาวน์ครั้งแรก โดยคาดว่ารัฐบาลจะเลือกปิดเฉพาะพื้นที่ ที่มีการระบาด ทำให้ผลกระทบไม่รุนแรงมากนัก

ส่วนเศรษฐกิจโลกจะพบว่าการเปิดเมืองยังมีความแตกต่างกันตามคาดความคืบหน้าการฉีดวัคซีน โดยเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯผ่านจุดเติบโตสูงสุดในขณะที่ยุโรปและญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง ในขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ Emerging Markets (EMs) ยังแตกต่างกันมาก ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลายลงหลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ชะลอลงและท่าทีของ Fed ที่มีแนวโน้มพร้อมปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าคาด (Hawkish) โดยตัวเลขตลาดแรงงานและการสื่อสารของ Fed จะมีความสำคัญต่อตลาดมากขึ้น เราคงมุมมอง Fed ส่งสัญญาณแบบค่อยเป็นค่อยไปในการทำ QE taper ในช่วงปลายไตรมาส 3/2021F และขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกปี 2023F

โดยปัจจัยเสี่ยงหลักในไตรมาสที่ 3 ประกอบด้วย 1) Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด2) ความเสี่ยงด้านนโยบายต่อบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และ 3) การกลับมาของความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน

สำหรับแนวโน้มตลาดการเงินโลก SCBS CIO ประเมินว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรขยับขึ้นอย่างช้าๆ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัว และราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มชะลอลงจากอุปทานที่ฟื้นตัว

ด้านดร.กำพล อดิเรกสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ SCB CIO กล่าวว่า กลยุทธ์ในการจัดพอร์ตการลงทุนสินทรัพย์ทั่วโลก SCBS CIO ยังคงเน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่ม DM โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐฯ และปรับน้ำหนักลงทุนหุ้น 60-65% หุ้นกลุ่ม value/growth เป็น 40/60 โดยเน้นหุ้นกลุ่ม Growth At Reasonable Price (GARP หุ้นกลุ่มเติบโตที่มีมูลค่าสมเหตุสมผล)

เราคงมุมมอง slightly positive จากมูลค่าที่น่าสนใจต่อหุ้นจีนและญี่ปุ่น นอกจากนั้นเราเชื่อว่าตลาดหุ้นจีนได้มีการ priced-in ความเสี่ยงด้านนโยบายไปบ้างแล้ว โดยเน้นกลยุทธ์การลงทุนแบบ selective buy ส่วนการฟื้นตัวของหุ้นญี่ปุ่นน่าจะเริ่มชัดเจนขึ้นตามความคืบหน้าการฉีดวัคซีนที่กำลังดีขึ้น

คงมุมมองเวียดนามยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจลงทุนที่สุดใน ASEAN และปรับมุมมอง SET เป็น slightly positive จากมูลค่าหุ้นที่กลับมาน่าสนใจ โดยเน้นกลยุทธ์การลงทุนแบบ selective buy และปรับมุมมองน้ำมันเป็น Neutral