น้ำมันลงต่อ

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ห่วงผลกระทบสงครามการค้า วิกฤตการเงินในตุรกี

บริษัทไทยออยล์ รายงานราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่อง หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ส.ค.เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้าเนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจากแคนาดาปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังแหล่งผลิต Syncrude เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นต่อเนื่อง

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 64 – 69 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 69 – 74 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ตลาดน้ำมันยังคงกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน หลังจีนประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ในสินค้าประเภทน้ำมันเพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ในอัตรา 25% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ส.ค.นี้

นอกจากนี้ วิกฤตการเงินในตุรกีสร้างความวิตกกังวลต่อตลาดการเงินโลก หลังค่าเงินตุรกีอ่อนค่าลงหนักที่สุดตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงิน ในปี 2008 รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นถึง 15% ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของตุรกีปรับขึ้นอย่างมากและอาจทำให้ตุรกีต้องกู้ยืมเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF เพื่อชำระหนี้ ถึงแม้ว่าตุรกีจะเป็นประเทศขนาดเล็กและบริโภคน้ำมันเพียง 1% ของการใช้น้ำมันโลก แต่ผลกระทบดังกล่าวอาจลุกลามไปยังตลาดเกิดใหม่ รวมถึงธนาคารยุโรปได้

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) จะปรับเพิ่ม 93,000 บาร์เรลต่อวันมาอยู่ที่ระดับ 7.52 ล้านบาร์เรลต่อวัน