แฉเหยื่อ บจ. หลายราย ถูกแก๊งตุ๋นบิทคอยน์ หลอกทำดีล

ข่าวโด่งดัง สะท้านวงการตลาดหุ้น หลังจากที่กองปราบบุกรวบตัว ดารา-นายแบบชื่อดัง “บูม-จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต” น้องชาย “ปริญญา จารวิจิต” ตัวการใหญ่นักตุ๋นดราก้อน คอยน์ ซึ่งหนีหมายจับขณะนี้ ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ฉ้อโกง นาย Aarni Otava Saarimaa ชาวฟินแลนด์ และภรรยา มูลค่าความเสียหายเฉียด 800 ล้านบาท โดยเริ่มจากการชักชวนเข้าลงทุนในบริษัท เอ็กเพย์ ซอฟแวร์ และอีกหลายธุรกิจ รวมทั้ง หลอกให้โอนบิทคอยน์ ชักชวนซื้อหุ้นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และหุ้นที่กำลังเข้าตลาดหลักทรัพย์

“ปริญญา” ทำตัวเป็นผู้มีความรู้เรื่องหุ้น เรื่องเงินดิจิทัล มีสายสัมพันธ์กว้างขวางในประเทศและต่างประเทศ แบ่งกันทำหน้าที่กับ “ชาคริส อาเหม็ด” เพื่อนชายคนสนิท ที่รับหน้าที่เป็นซีอีโอ บริษัท ไว กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ทำหน้าที่บริหารจัดการกับเงินที่เข้ามาซื้อ ดราก้อน คอยน์ ที่ออกโดยบริษัท ดราก้อน คอร์ปอเรชั่น (ฮ่องกง) ของนาย “ว” เจ้าของธุรกิจบ่อนพนันมาเก๊า ของ มาเฟียชื่อดังระดับโลก

แหล่งข่าวกล่าวว่า ปริญญา แทรกซึมตัวกับนักการเงิน-ธนาคาร นักลงทุนในตลาดหุ้น ผ่านช่องทางคอนเน็กซ์ชั่นที่มี กระทั่งได้รู้จักกับตัวละครทั้งหมดในคดีนี้ ไม่ว่าจะเป็น “ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” เจ้าพ่อตลาดหุ้น, นายอาร์นี และภรรยา

พฤติกรรมนายปริญญา พยายามสร้างคอนเน็กชั่นไปตามสายตลาดเงิน ตลาดทุน โดยอาศัยนายประสิทธิ์ ผู้กว้างขวางในตลาดหุ้น เชื่อมต่อ ทำให้นายปริญญา เข้าถึงผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนหลายราย เช่น เฮีย ม. เจ้าของกิจการในตลาดหลักทรัพย์, นายธ. ผู้บริหารและเจ้าของกิจการสื่อสารโทรคมนาคมชื่อดังในตลาดหลักทรัพย์ กระทั่งเข้าถือหุ้น เอ็นจิเนียริ่ง คอร์ปอเคชั่น (T) และหุ้นบริษัท เวนเจอร์ อินคอร์ปอเคชั่น (VT) มีเป้าหมายร่วมทุน ร่วมธุรกิจ เชื่อมโยงกับธุรกิจบ่อนคาสิโน แต่บริษัท T และนาย ธ. เป็นความไม่ชอบมาพากล เสียก่อน จึงรอดพ้นจากการพัวพันเส้นทางตุ๋นของนายปริญญา

“ปริญญา เดินสายไปตามเป้าหมายคนมีเงิน เสี่ยรายใหญ่ และผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน เบื้องต้นมีบางบริษัท เช่น ที เอ็นจิเนียริ่ง (T) ที่เข้าไปถือหุ้นก่อนแล้ว ต่อมาเข้าถึงตัวผู้บริหาร ขอซื้อบริษัท เมื่อไม่ได้บริษัท T จึงไปจบอยู่การซื้อหุ้น ดีเอ็นเอ (DNA) ทั้งปริญญาและอาร์นี ถือหุ้น DNA นายปริญญา เป็นกรรมการบริหาร มีแผนให้อาร์นี เป็นซีอีโอ ด้วย ซึ่งช่วงประมาณเดือนต.ค.บริษัท ดราก้อน คอร์ปอเรชั่น (ฮ่องกง) ระดมทุนออก ดราก้อน คอยน์ ขณะเดียวกันได้หาธุรกิจใหม่ให้ DNA เป็นเชื่อมโยงการหารายได้ค่าธรรมเนียมการโอนเงินไปบ่อนคาสิโน กระทั่งเฮีย ม. เห็นแปลกๆ ไม่โอเคด้วย เลิกล้มธุรกิจบริษัทย่อย ไว เท็กซ์ ประกอบกับนายปริญญา เริ่มมีปัญหากับ อาร์นีและนายประสิทธิ์ มีผู้กองผู้มีอิทธิพลชื่อดัง เข้ามาไกล่เกลี่ยและยึดหุ้น DNA ของนายปริญญาไป” แหล่งข่าว กล่าว

สำหรับนายอาร์นี หนุ่มน้อยชาวฟินแลนด์ ปัจจุบันอายุ 23 ปี เป็นเด็กหนุ่มที่ร่ำรวยมีเงินมหาศาลจากราคาบิทคอยน์ ในตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน ที่ปรับตัวขึ้นช่วงกลางปีที่ผ่านมา เหรียญบิทคอยน์ที่อาร์นี สะสมได้จากการเล่นเกมส์ในวัยรุ่นตั้งแต่อายุ 13-14 ปี เรื่อยมา ทำให้เขากลายเป็น “คิง ออฟ บิทคอยน์” ด้วยความที่อาร์นี ให้ความสนใจ เรียนรู้ เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น บล็อกเชน การป้องกันแฮกข้อมูลกระเป๋าเงินดิจิตอล (Wallet) จึงคิดว่าจะนำวิชาความรู้ที่มี เข้ามาใส่ใน DNA กระทั่งมาถูกนายปริญญา หลอกลวงเสียก่อน

ส่วน “แตงโม” ภรรยานายอาร์นี เป็นคนภาคกลาง ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เท่าไร เป็นคนเข้ามาดูบัญชีและเอกสารการเงิน โดยสามี-ภรรยา คู่นี้ (อาร์นี-แตงโม) เป็นคนเก่ง สนใจและมีความรู้ด้านบล็อกเชน รวมทั้งการลงทุนเงินดิจิทัล และเป็นคนสอนการลงทุนด้านนี้ให้นายประสิทธิ์

นายอาร์นี กล่าวกับผู้สื่อข่าว HoonSmart.com ว่า ไว้ใจคนไทย ไม่คิดว่าจะหลอกลวง

อ่านประกอบ

หักเหลี่ยม “King of Bitcoin”

ติดตามข่าว หุ้นเด่น ประเด็นร้อน #HoonSmart #หุ้นสมาร์ท ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/HoonSmart
Line : https://line.me/R/ti/p/%40hoonsmart.com