หักเหลี่ยม “King of Bitcoin”

ขบวนการต้มตุ๋นนักลงทุนต่างชาติ ครั้งใหญ่ มูลค่าเฉียด 800 ล้านบาท ขบวนการนี้มีจุดเริ่มจาก หนุ่มน้อยเศรษฐีบิทคอยน์ ที่ถูกขนานนามให้เป็น King of Bitcoin มูลค่าบิทคอยน์ที่มีหลายหมื่นล้านบาท เป็นที่สนใจของแมวมองที่ต้องการให้หนุ่มน้อยต่างชาติคนนี้เข้ามาลงทุน

ฝรั่งรายนี้และภรรยา จึงถูกชักนำเข้าสู่วงการลงทุนในประเทศไทย โดยรู้จักกับนายแบงก์คนหนึ่งที่เชื่อมให้ 2 คนผัว-เมีย รู้จัก ปริญญา จารวิจิต พี่ชายดารา-นายแบบชื่อดัง “ บูม จิรัชพิสิษฐ์” ที่ถูกรวบตัวเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ขณะที่ปริญญา เผ่นหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้แล้ว และรู้จักกับเจ้าพ่อตลาดหุ้น

เจ้าพ่อบิทคอยน์ ปริญญา และเจ้าพ่อตลาดหุ้น มาเจอกัน คนเก่งอย่างเจ้าพ่อบิทคอยน์ ปะทะคนลวงโลกอย่างปริญญา อะไรก็เกิดขึ้นได้ บิ๊กกะโปรเจกต์แรก การออก ดราก้อน คอยน์ ภายใต้บริษัท ดราก้อน คอร์ปอเรชั่น (ฮ่องกง) มูลค่ามหาศาล ขายไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย เมื่อราว ๆ เดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา ถึงขนาดลงทุนพานักข่าว นักวิเคราะห์ ข้ามน้ำข้ามทะเลไปมาเก๊า ต้นสังกัดที่จะนำเงินจากการขายบิทคอยน์ไปลงทุนส่วนหนึ่ง

การตั้งบริษัท ไว โฮลดิ้ง กรุ๊ป ที่นายปริญญา เป็นผู้บริหาร มีนาย คริส หรือ จักรกฤช อาเหม็ด เป็นซีอีโอ ออกหน้าบริหาร และเจ้าพ่อตลาดหุ้น ร่วมสนับสนุนชักชวนคนมาลงทุน ว่ากันว่า ผลตอบแทนจากการลงทุน ICO ดาร์ก้อน คอยน์ จากต้นทุน 3.25 บาท เข้าซื้อขายในตลาดรองแล้ว จะมีมูลค่ามากถึง 10 บาท

สุดท้าย นักลงทุนไทย และต่างชาติ ที่หลงเชื่อคำชักชวน หลงในผลตอบแทน ถูกนายปริญญา ฉ้อโกง ขณะที่ฝรั่งชาวฟินแลนด์ และภรรยา เริ่มได้กลิ่นความไม่ชอบมาพากล เริ่มทวงถามเงินกว่า 400 ล้านบาท ที่ถูกนายปริญญา ชักชวนให้โอนบิทคอยน์ เข้ามาในกระเป๋าเงินของนายปริญญา เพื่อแลกกับ ICO ดราก้อน คอยน์ แต่นายปริญญา ไม่โอน ICO ดาร์ก้อน คอยน์ ให้ฝรั่ง วงเริ่มแตกออกเป็น 2 เสี้ยวตรงจุดนี้

เมื่อฝรั่ง ไหวตัวทัน ก็เริ่มเทคะแนนเสียงไปให้ เจ้าพ่อตลาดหุ้น ที่คิดว่าจะฝากฝังเงินลงทุนไว้กับเจ้าพ่อตลาดหุ้นได้ ช่วงเวลาเดียวกันนั้น เจ้าพ่อตลาดหุ้น ได้ถอนตัวออกจากบริษัท ไว โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับจ่ายเงินให้กับ ดราก้อน คอยน์ จากกลิ่นการทุจริตใน ไว โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป ว่ากันว่า เสี่ย-หมอ นักลงทุนรายใหญ่ หลายราย ที่เข้าไปลงทุนซื้อ ICO ตามล่าเงินกันเองจากคริส และปริญญา บางรายได้เงินมาไม่สูญหายเต็มจำนวน

เมื่อฝรั่ง-ภรรยา หมดความไว้เนื้อเชื่อใจ คริส-ปริญญา ก็เริ่มเทความวางใจมาให้เจ้าพ่อตลาดหุ้น มากขึ้น ถึงขนาดฝากความหวังไว้ที่เจ้าพ่อตลาดหุ้น พื้นฐานเป็นคนชอบทำบุญ มีศีลธรรม การลงทุนอื่น ๆ จึงเริ่มตามมา เช่น เจ้าพ่อตลาดหุ้น นำหุ้น DNA มาขายให้ฝรั่ง จำนวน 500 ล้านหุ้น ตามที่ตกลง มูลค่าหุ้น 250 ล้านบาท กลายเป็นเรื่องฟ้องร้องขึ้นมา เพราะ เจ้าพ่อตลาดหุ้นโอนหุ้น DNA ให้เพียง 345 ล้านหุ้น เท่านั้น หุ้นไม่ครบ แต่กลับจ่ายเงิน ค่าหุ้นมากกว่าที่ตกลงกัน แล้วลงทุนหุ้นนอกตลาด 15 ล้านบาท ทำธุรกิจหลักทรัพย์ ที่เจ้าพ่อตลาดหุ้น หมายมั่นปั้นมือว่าเข้าตลาดหุ้นได้ ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 50 %

หลังจากซื้อหุ้นของโบรกเกอร์นี้แล้ว ไม่สามารถโอนหุ้นได้ เพราะใบหุ้นเป็นชื่อนาย อ. หลานชายคุณหญิงชื่อดัง ที่ปฏิเสธไม่รู้เรื่อง แต่คนเซ็นสัญญาเป็นนอมินี เจ้าพ่อตลาดหุ้น งานเข้า


“ฝรั่งรายนี้ ลงทุน DNA จำนวนมาก เป็นเรื่องที่โยงกันมาจาก ดราก้อน บิทคอยน์ถ้าไม่มี ดราก้อน บิทคอยน์ ก็ไม่มีวันเกิดการลงทุน DNA เพราะ ถูกหลอกว่า เงินจากการออก ICO บิทคอยน์ จะเข้าไปเทคโอเวอร์ DNA ให้ฝรั่งซึ่งมีความรู้บล็อกเชน เข้าไปบริหารใน DNA สุดท้ายไม่เป็นอย่างที่คิด อย่างที่พูด “

เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากดราก้อน บิทคอยน์ สู่หุ้น DNA ที่มีปริญญา เป็นต้นเรื่องทั้งหมดนั้น มีตัวละครที่มีอิทธิพลนายทหารชื่อดัง เข้ามาเป็นตัวกลาง ไกล่เกลี่ย แต่ไม่เป็นผล แม้ว่า ปริญญา จะโอนหุ้นทั้งหมดที่ถือใน DNA ให้ผู้กองคนดังทั้งหมด แต่เรื่องดังกล่าวไม่สามารถจบอยู่ที่ผู้กองคนดัง กระทั่งเรื่องทั้งหมดถึงมือกองปราบในที่สุด

จากการสอบถาม เจ้าพ่อตลาดหุ้น เผยว่า ตนเป็นผู้เสียหาย เช่นเดียวกับฝรั่งต่างชาติ ที่ถูก นายปริญญา หลอก โดยฝ่ายเจ้าพ่อตลาดหุ้น ที่โดนต่างชาติฟ้อง สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ เนื่องจากเสียหายทั้งคู่ ส่วนนายปริญญาและคริส ที่ต่างชาติฟ้องคดีฉ้อโกง สัปดาห์หน้าพ่อ-แม่ของนายปริญญาจะถูกเรียกตัว

เรื่องทั้งหมดจะดำเนินการไปอย่างไร เจ้าพ่อตลาดหุ้น และฝรั่ง–ภรรยา จะไกล่เกลี่ยกันได้หรือไม่ ในบ่ายวันพรุ่งนี้ บนโต๊ะอาหาร ที่ทั้ง 2 ฝ่าย นัดเจรจาไกล่เกลี่ยกัน โดยที่เจ้าพ่อตลาดหุ้น หวังได้หุ้นลูกค้าที่หลงเชื่อขายให้ปริญญา มูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท แต่ได้เงินมาเพียง 200 ล้านบาท ซึ่งกล่าวอ้างว่าหุ้นไปอยู่ในมือฝรั่งบางส่วนและอยู่ที่ปริญญาส่วนใหญ่ คืนมา กับที่ดินของปริญญาที่จังหวัดชลบุรี นั้น ฝรั่งจะได้รับชดเชยค่าเสียหายหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกัน และติดตามตัว “ปริญญา” มาลงโทษ