HoonSmart.com>> “โปรเอ็น คอร์ป” คาดรายได้ปี 2564 เติบโต 20% ธุรกิจ ICT ไปได้ดี ครึ่งปีหลังขยายศูนย์จัดเก็บศูนย์ข้อมูลเพิ่ม 3 พันตารางเมตร รองรับตู้ 1 พันตู้ เริ่มปีนี้ 100 ตู้ จับมือพันธมิตร 3 ราย เพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ๆ Cloud Service ส่วนการเข้าเป็น Validator Node ของบิทคับ เริ่มรับรู้รายได้ปีนี้ คว้างานกรมศุลกากร 69.88 ล้าน เตรียมเข้าประมูลงาน กฟภ.-กฟน. หวังได้งาน 200-500 ล้านบาท
นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเอ็น คอร์ป (PROEN) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2564 จะเติบโตประมาณ 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,005.51 ล้านบาท โดยธุรกิจ ICT คาดว่ายังคงเติบโตต่อเนื่อง สถานการณ์โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของคนต้องใช้ระบบออนไลน์ในการทำงาน ทำธุรกรรมในรูปแบบ อีคอมเมิร์ซ, เกมส์ออนไลน์ และการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลมากขึ้น เพื่อรองรับธุรกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ , เกมส์ออนไลน์และการการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบ Online ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ ทำให้ธุรกิจศูนย์จัดเก็บศูนย์ข้อมูล (Internet Data Center) มีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
แนวโน้มในครึ่งหลังของปี 2564 บริษัทมีแผนที่จะลงทุนขยายศูนย์บริการศูนย์ข้อมูลเพิ่มประมาณ 3,000 ตารางเมตร ซึ่งสามารถรองรับตู้ Rack ได้จำนวน 1,000 ตู้ ปัจจุบันลูกค้ามีความต้องการประมาณ 50-60 ตู้ ซึ่งปีนี้มีแผนจะขยาย 100 ตู้ โดยช่วงแรกจะเป็นการเช่าบางพื้นที่เพื่อติดตั้งระบบ และปี 2565 อีก 300 ตู้ ปี 2566 อีก 1,000 ตู้ ส่วนธุรกิจการให้บริการ Cloud Service บริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตร 3 ราย เพื่อขยายช่องทางการตลาดใหม่และช่องทางขายอื่นๆ
บริษัทฯยังได้เข้าร่วมเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรม (Validator Node) ในระบบ Blockchain ของ BitKub ร่วมกับ 11 องค์กรใหญ่ จะทำให้มีรายได้ประจำเข้ามาทุกปี ซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 ในอนาคตมีแผนที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มที่เข้ามาต่อยอดบนระบบ Blockchain และแพลตฟอร์มการบริหารโลจิสติกส์ด้วย
ส่วนโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบเครือข่ายหลักสำหรับศูนย์คอมพิวเตอร์ กรมศุลกากร เป็นเงินทั้งสิ้น 69.88 ล้านบาท บริษัทจะทยอยรับรู้ไปตลอดระยะเวลา 240 วัน นับตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. 2564 ปัจจุบันมีโครงการในมือรับรู้รายได้ (Backlog) รวมทั้งสิ้น 175 ล้านบาท
“เราเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ โดยเน้นการขยายธุรกิจ ด้านเทคโนโลยีสร้างรายได้ประจำ และต่อยอดด้วยพัฒนาธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจคลาวด์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ซึ่งเป็นพื้นฐานการให้บริการทางการเงิน และบริการ Internet Data Center และการบริการต่างๆของเรา จะส่งผลให้ฐานรายได้จากการขายของบริการธุรกิจ ICT เติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เรามั่นใจว่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดได้” นายกิตติพันธ์ กล่าว
ด้านธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานโทรคมนาคม และสาธารณูปโภคพื้นฐาน ในช่วงครึ่งหลังของทุกปีจะเป็นช่วงที่มีงานออกมาให้เอกชนร่วมประมูลจำนวนมาก ซึ่งบริษัทคาดว่าในช่วงไตรมาส 3 จะเข้าร่วมประมูลงานกับพันธมิตรทางธุรกิจ ในโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 11 งาน มูลค่าโครงการรวม 1,400 ล้านบาท และงานจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) อีก 3 งาน มูลค่าโครงการรวม 4,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับงานประมาณ 200-500 ล้านบาท
