HoonSmart.com>>หุ้นทั่วโลกทรุด ตกใจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วปี 65 หุ้นไทยถูกถล่มลึกกว่า 22 จุด ก่อนดีดขึ้นปิดเหนือ 1,601 จุด ติดลบ 11.85 จุด อานิสงส์ตลาดยุโรปและดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก นักลงทุนไทยไล่ซื้อ 4.8 พันล้านบาท ส่วนต่างชาติทิ้ง 3.2 พันล้านบาท สถาบันไทยขายด้วย 2,022 ล้านบาท บล.ยูโอบีฯคาดพรุ่งนี้ฟื้น แนะหุ้น ADVANC-BTSGIF-WHART-RATCH-EGCO บล.ฟินันเซียฯอัพเป้าดัชนีสิ้นปีนี้ จาก 1,600 จุด เป็น 1,660 จุด คัด 10 หุ้นเด่น BDMS, CK, CPALL, EKH, M, SAPPE, SCB, SPALI TISCO, VRANDA ศูนย์วิจัยกสิกรฯคาดกนง. 23 มิ.ย. คงดอกเบี้ย 0.5%
ตลาดหุ้นวันที่ 21 มิ.ย. ดัชนีดิ่งลงแรงตามคาด ต่ำกว่า 1,600 จุด ลงไปลึกสุดแตะ 1,590.55 จุด ก่อนเด้งติดลบ 11.85 จุดหรือ 0.73% ปิดที่ระดับ 1,601.13 จุด มูลค่าการซื้อขาย 83,153.17 ล้านบาท เกิดจากแรงขายต่างชาติ 3,244.39 ล้านบาท สถาบันไทยขาย 2,022.07 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนไทยซื้อสุทธิ 4,854.98 ล้านบาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นทรุดลงหลุด 1,600 จุด จากผลการประชุมเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในปี 2565 ช่วงบ่ายฟื้นตัวขึ้นมาตามทิศทางของตลาดหุ้นยุโรป และตลาดดาวโจนส์ฟิวเจอร์
ส่วนแนวโน้มวันที่ 22 มิ.ย. 2564 คาดว่าตลาดอาจจะฟื้นตัวสั้นๆได้ โดยประเมินกรอบเคลื่อนไหวที่ 1,590-1,610 จุด ถ้าตลาดสามารถยืนได้บริเวณ 1,606 จุด ตลาดจะมีโอกาสเป็นขาขึ้นอยู่ โดยกลยุทธ์แนะนำลงทุนที่หุ้นที่นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่มีในพอร์ต แนะนำ ADVANC , BTSGIF , WHART , RATCH และ EGCO
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) เปิดเผยว่า ฝ่ายวิเคราะห์ฯ ได้ปรับเป้าหมายดัชนีหุ้นสิ้นปี 2564 ขึ้นจาก 1,600 จุด เป็น 1,660 จุด จาก กำไรต่อหุ้นขึ้นเป็น 83 บาท เติบโต 108.7% จากปีก่อนและอิงพี/อี 20 เท่า (ค่าเฉลี่ย 10 ปี +1.75) ปัจจุบันมี Upside เพียง 3%
ในเชิงกลยุทธ์แนะนำหมุนเข้ากลุ่ม Domestic Play ที่คาดมีโอกาสที่เม็ดเงินจะไหลเข้าแทน Global Play และ Outperform ตลาดการฉีดวัคซีน และทยอยเปิดเมือง เปิดประเทศ
“เราชอบกลุ่มค้าปลีก ร้านอาหาร การแพทย์ ธนาคาร ท่องเที่ยว โดยเลือก Top Pick ช่วงครึ่งปีหลังนี้ เป็น BDMS, CK, CPALL, EKH, M, SAPPE, SCB, SPALI TISCO, VRANDA” บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ
ทั้งนี้หากเปรียบเทียบความน่าสนใจของ ตลาดหุ้นไทยถือว่ายังเป็นรองตลาดอื่นในภูมิภาคเอเชียจาก Valuation ที่ค่อนข้างแพง ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับพี/อี ปี 2564-2565 ที่ 19.4 เท่าและ 17 เท่า ตามลำดับ สูงเป็นอันดับต้นๆ ในภูมิภาคเอเชียและเมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไรต่อหุ้นพบว่ามี P/Eที่ 1.19 เท่า สูงเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาค ประเมินว่ายังไม่เห็นการกลับมาซื้อของนักลงทุนต่างชาติอย่างมีนัยยะ
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ กนง. จะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และกนง. น่าจะยังคงประมาณการเศรษฐกิจปี 2564 ที่ราว 1.5-2.0% สอดคล้องกับคาดการณ์ในรายงาน กนง. เดือนพ.ค. ที่ผ่านมา หากในปีนี้สามารถฉีดวัคซีนได้ 64.6 ล้านโดสตามแผนการเดิม เศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 1.5% แต่หากสามารถเร่งฉีดวัคซีนได้ 100 ล้านโดส จะขยายตัวที่ 2.0%
ส่วนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดภาระทางการเงินของครัวเรือน แต่คาดว่าธปท. น่าจะเลือกที่จะใช้มาตรการเฉพาะจุดมากกว่าการใช้มาตรการทั่วไป โดยการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอาจยังไม่มีความจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบันและธปท. น่าจะต้องการเก็บกระสุนไว้ใช้ในยามเศรษฐกิจแย่ลง เฟดส่งสัญญาณถอนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเร็วกว่าที่คาด จะทำให้เมื่อเผชิญสถานการณ์ที่มีแรงกดดันให้ต้องเพิ่มดอกเบี้ยจะมีต้นทุนที่สูง โดยนโยบายการเงินของเฟดที่เปลี่ยนไปในทิศทางเข้มงวดมากขึ้นจะส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อธปท. ในการคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในระยะข้างหน้า