หุ้น ดีเอ็นเอ 2002 หรือ DNA เช้าวันที่ 10 ส.ค. ถูกเทอย่างแรง ราคากระแทกพื้นติดฟลอร์ ลงมาอยู่ที่ 50 สตางค์ หรือลดลง 21 สตางค์ หรือ 29.58 % สาเหตุก็อย่างที่เป็นข่าว หุ้น DNA ถูกขายจากเจ้าพ่อตลาดหุ้น หรือ “ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” ที่เป็นตัวกลาง (โบรกเกอร์ ) ขายออกไปให้กับ “ปริญญา จารวิจิต หรือปริน “ และ “นักลงทุนต่างชาติ” ช่วงก่อนปลายปี 2561 ซึ่งมีชื่อ “ปริญญา” และฝรั่ง ปรากฎเป็นผู้ถือหุ้นและผู้บริหาร DNA
ทุกอย่างทำท่าไปได้สวย ถ้า “ปริญ” และ “คริส” (จักรกริช อาเหม็ด) ไม่ออกฤทธิ์ ยักยอกเงินบิทคอยน์ มูลค่า 400 ล้านบาท ที่ฝรั่งโอนเข้ามาซะก่อน ในช่วงปลายปี 2561 ป่านนี้คงได้เห็น ฝรั่ง ตาน้ำข้าวจากฟินแลนด์ เข้าไปเป็นซีอีโอ นั่งบริหารใน DNA แล้ว อย่างที่ “เจ้าพ่อตลาดหุ้น” สร้างฝันไว้ให้
เมื่อวงแตก ออกเป็น 3 ส่วน ตัวละครหลัก “เจ้าพ่อตลาดหุ้น–ฝรั่งตาน้ำข้าว-ปริญ” ความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์จึงเกิดขึ้นเป็นคดีความขึ้นมา
DNA เกี่ยวพันกับ ดราก้อน ฮ่องกง ที่ออก ICO อย่างไร หลายคนอยากรู้ …. เรื่องของเรื่อง DNA มีบริษัทย่อยทำธุรกิจไอที ชื่อ ไวเทค อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทนี้กำหนดให้เป็นผู้วางระบบซอฟท์แวร์ ให้กับ ดราก้อน คอยน์ ที่กำลังจะออก ICO ซึ่ง ไวเทคฯ จะทำหน้าที่ ตัวกลางรับโอนเงิน มีรายได้ค่าธรรมเนียมการโอนเงินจากนักเล่นในบ่อน
“เมื่อ ‘ปริญ’ สนใจทำธุรกิจร่วมกับ DNA แล้ว ก็ขอมีส่วนร่วมถือหุ้น ขอซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ถือหุ้นแล้วก็เข้ามาเป็นกรรมการบริหาร แต่พอมาจริงๆ มันไม่ใช่ เรื่องธุรกิจเสนอบอร์ดๆ ไม่สนับสนุน เพราะการออก ICO ยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางการทั้งแบงก์ชาติ-ก.ล.ต. พอเห็นความเสี่ยงชัดเจน คิดว่ากลุ่มบริษัทย่อย DNA ที่ทำซอฟแวร์ทั้งหมด ทั้ง ไวเทค ไมเน็ต ที่จะทำธุรกิจร่วมกับ ดราก้อน คอยน์ จึงไม่เดินเรื่องต่อ จากนั้นปริญ ได้ลาออก เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะถือหุ้นต่อไปอีก ส่วน DNA สุดท้ายขายไว เทค และ ไมเน็ตออกไป คงไว้ธุรกิจที่แข็งแรง ไว้ เช่น คิงส์ คอง โฟน และธุรกิจน้ำ” เฮียม๊อ หรือ นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ DNA กล่าว
สำหรับ เฮียม๊อ เข้ามาบริหารงานเต็มตัว ใน DNA ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา เมื่อต้องกลับเข้ามา จึงได้เริ่มสะสาง DNA โล๊ะตัดธุรกิจที่มีความเสี่ยง ไม่ทำกำไรออกไป เพราะปล่อยให้คนอื่นทำเละมานาน การตัดสินใจกระโดดเข้ามาครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ของ DNA สิ่งที่เขาพยายามทำก็คือ การมองหาความยั่งยืนในการดำเนินการ หาธุรกิจที่จีรังยั่งยืนแข็งแรง จับต้องได้ ไม่อาศัยจมูกใครดม ไม่ทำมั่วซั่วอย่างที่แล้ว ๆ มา
“ผมอาสามาทำหน้าที่ ก็ต้องเดินหน้าอย่างที่สุด สิ่งที่ผมกำลังทำตอนนี้ คือ การมองหาความยั่งยืนให้ธุรกิจ อะไรที่ไม่ยั่งยืน มีความเสี่ยง เราจะละไว้ก่อน นโยบายของผม จะเอาผู้ถือหุ้น และนักลงทุนรายย่อยมาเสี่ยงกับเราไม่ได้ ผมดูส่วนรวมเป็นหลัก เอามันส์ไม่ได้”
เฮียม๊อ ยอมรับว่า รู้จักกับ “ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” มานาน ตั้งแต่ “ประสิทธิ์” อยู่ บล.คันทรี่กรุ๊ป ซึ่งเป็นแกนนำขายหุ้น DNA เข้าตลาดหลักทรัพย์ ตั้งแต่นั้นมา มีคุยเรื่องธุรกิจตามปกติ แต่เรื่องส่วนตัวไม่ก้าวล่วงกัน แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว นายประสิทธิ์ ต้องแก้ปัญหาและให้ความชัดเจนเพื่อป้องกันมิให้นักลงทุนเกิดความเข้าใจผิด พร้อมกับตั้งทนายความเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับ DNA
“ผมกังวลกับข่าวใหญ่ฉ้อโกงที่เกิดขึ้น นักลงทุนเองสับสนกับข่าวแน่นอน ไม่นิ่งนอนใจ เพิกเฉย หรือไม่ทำอะไรเลย และได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว สิ่งที่ทำได้นอกจากประชาสัมพันธ์แล้ว คือ การเดินหน้าทำธุรกิจต่อไป” เฮียม๊อ กล่าว
อ่านประกอบ
*************
ติดตามข่าว หุ้นเด่น ประเด็นร้อน #HoonSmart #หุ้นสมาร์ท ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/HoonSmart
Line : https://line.me/R/ti/p/%40hoonsmart.com