GUNKUL เคาะขายหุ้นซื้อคืน 99 ล้านหุ้น เริ่ม 14 มิ.ย.-23 ต.ค.นี้

HoonSmart.com>> “กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง” เตรียมขายหุ้นซื้อคืนจำนวน 99.04 ล้านหุ้น กว่า 1.34% ผ่านตลาดหลักทรัพย์ ระหว่าง 14 มิ.ย.-23 ต.ค.64 ส่วน”พีทีที โกลบอล เคมิคอล”ยันขายหุ้นคืนตามเกณฑ์ตลาด จำนวนน้อยมากแค่ 0.495% มีเวลาตัดสินใจยาวถึงสิ้นปี 65  บริษัทมีสถานะการเงินแข็งแกร่ง แนวโน้มผลงานไปได้สวย  

บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2564 และมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2564 มีมติอนุมัติที่จะจำหน่ายหุ้นซื้อคืนจำนวน 99,043,700 หุ้น คิดเป็น 1.34% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.-23 ต.ค.2564

หากจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนไม่หมดภายในระยะเวลาที่กำหนด บริษัทฯ จะลดทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วโดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนที่ซื้อคืนและยังไม่ได้จำหน่ายทั้งหมด ตามกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ด้านหุ้น GUNKUL ปิดตลาดที่ราคา 3.58 บาท ลดลง 0.04 บาท หรือ -1.10% มูลค่าการซื้อขาย 262.51 ล้านบาท

ส่วนบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล(PTTGC)  ราคาหุ้นปรับตัวลงแรง หลังจากคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติขายหุ้นที่ซื้อคืนจำนวน 22.3 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.495% ของทุนเรียกชำระแล้ว ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การขายหุ้นที่ซื้อคืนดังกล่าว เป็นไปตามกฏเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่บริษัทฯ สามารถจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนหลังเสร็จสิ้นโครงการในระยะเวลา 6 เดือนแต่ไม่เกิน 3 ปี โดยปัจจุบันเหลือระยะเวลา ประมาณ 18 เดือน หรือระหว่างวันที่ 7 มิ.ย.2564 – 9 ธ.ค.2565

“หุ้นที่จะขายออกเป็นจำนวนหุ้นน้อยมากคือเพียง 0.495% ของหุ้นทั้งหมด โดยมีการบริหารจัดการให้มีความคล่องตัวและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นสูงสุด เนื่องจากมีเวลาดำเนินการนานถึง 1.5 ปี ทำให้บริษัทฯ สามารถใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพในการขยายการลงทุนโครงการต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องและโปร่งใส นอกจากนั้นโครงการซื้อหุ้นคืนยังช่วยให้บริหารสภาพคล่องส่วนเกินและแสดงถึงความมั่นใจในธุรกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี” ดร.คงกระพันกล่าว

นอกจากนี้จากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวภายหลังวิกฤติโควิด 19 และราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ GC มีกลยุทธ์และแนวทางเสริมสร้างศักยภาพและความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ให้เติบโตในเวทีโลก เพื่อรองรับการขยายและเพิ่มความยืดหยุ่นของธุรกิจในอนาคต ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งนักลงทุนไทยและต่างประเทศ รวมถึงความมุ่งมั่นในการเป็นต้นแบบองค์กรเพื่อความยั่งยืนในระดับสากล มุ่งเน้นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals :SDGs) ด้วยการสร้างสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล