บล.เมย์แบงก์ฯ ชี้โควิดรอบใหม่กดกำไรบจ. Q2/64 คัด 5 หุ้นเด่นโตต่อเนื่อง

HoonSmart.com>> บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินโควิดระลอกใหม่กดดันกำไรบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/64 ชะลอตัว หลังโค้งแรกผลงานดีกว่าคาด คงเป้าดัชนีสิ้นปี 1,600 จุด แนะจังหวะหุ้นย่อทสอยสะสม พร้อมคัดหุ้น 5 เด่น คาดแนวโน้มไตรมาส 2/64 กำไรโดดเด่น ชู ASK, BCH, MTC, IVL, WICE

วิจิตร อารยะพิศิษฐ

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET ประเมินกำไรบริษัทจดทะเบียนรวมในช่วง 1Q64 ออกมาโดดเด่น และดีกว่าคาด แต่ COVID-19 ระลอกใหม่อาจกดดันงบในช่วง 2Q64 ชะลอตัว ดังนั้นจึงยังคงดัชนีเป้าหมายสิ้นปี 64 ที่ระดับ 1,600 จุด ประเมินจังหวะย่อเป็นโอกาสทยอยสะสม โดยเน้นกลุ่มที่คาดยังมีพัฒนาการเชิงบวกต่อเนื่องในช่วง 2Q64 นำโดย ASK, BCH, MTC, IVL, WICE

สำหรับกำไรบริษัทจดทะเบียน 1Q64 มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 2.65 แสนล้านบาท (+46%QoQ, +129%YoY) ถือเป็นไตรมาสที่กำไรรวมค่อนข้างโดดเด่น และบริษัทกว่า 80% รายงานกำไรออกมาดีกว่าที่ตลาดประเมินไว้

กลุ่มอุตสาหกรรมที่กำไร 1Q64 เติบโตได้ดีทั้ง QoQ และ YoY นำโดย พลังงาน, ปิโตรเคมี, วัสดุก่อสร้าง, อสังหาริมทรัพย์, ไฟแนนซ์&หลักทรัพย์, เกษตรฯ, ประกัน, เหล็ก, บรรจุภัณฑ์, อิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์, รับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มสื่อ

ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังทำผลงานในช่วง 1Q64 ไม่ดี (ลดลง QoQ, YoY หรือ ขาดทุน) ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว, ขนส่ง, ค้าปลีก, โรงพยาบาล และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ จะเห็นได้ชัดเจนว่ากลุ่มที่กำไรขยายตัวดีส่วนมากจะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (Global Play) )เช่น ภาคการส่งออก ในขณะที่ปัญหา COVID-19 ยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Play) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากต้องพึ่งพิงกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง มองว่าแม้ว่ากำไร 1Q64 จะออกมาโดดเด่น แต่ไทยยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในระลอกใหม่ ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะกดดันให้กำไร 2Q64 ลดลง QoQ แต่จะยังได้อานิสงส์จากฐานต่ำในปี 2563 จึงจะยังเห็นการฟื้นตัวได้ YoY ดังนั้นยังคงคาดการณ์กำไรรวมปีนี้ของบริษัทจดทะเบียนที่ 9.2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น SET EPS ที่ 84 บาทต่อหุ้น และคงเป้าหมายดัชนีที่ 1,600 จุด อิงระดับ PE 19x (ค่าเฉลี่ย PE 5 ปี + 1.0 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีหลายบริษัทที่สามารถทำกำไรสุทธิ 1Q64 ทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาส หนุนราคาหุ้นปรับตัวขึ้น โดยเชื่อว่าหลายบริษัทยังมีศักยภาพของการเร่งตัวขึ้นของผลประกอบการได้ต่อเนื่องในช่วง 2Q64 ดังนั้นหากมีจังหวะย่อแนะเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้น ASK, BCH, MTC, IVL, WICE